หนังสือพิมพ์โกลบอลไทม์สเผยชาวจีน 9 ใน 10 คนมองความสัมพันธ์จีน-อาเซียนเป็นมิตร
ปักกิ่ง--17 พฤษภาคม 2565--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
ในขณะที่หลายฝ่ายเชื่อว่าประเด็นเกี่ยวกับจีนเป็นวาระสำคัญในการประชุมสุดยอดสหรัฐอเมริกา-อาเซียน ผลสำรวจล่าสุดก็เผยให้เห็นว่า จากเกือบ 80% ของชาวจีนทั้งหมดที่ตอบแบบสำรวจ พบว่าราว 90% มองว่าความสัมพันธ์จีน-อาเซียนเป็นมิตร และกว่า 75% มีมุมมองบวกต่ออนาคตของทั้งสองฝ่าย
ผลสำรวจดังกล่าวร่วมกันจัดทำโดยศูนย์วิจัยของโกลบอลไทม์สและศูนย์ศึกษายุทธศาสตร์ต่างประเทศของจีน มหาวิทยาลัยเหรินหมินแห่งประเทศจีน ระหว่างวันที่ 15 มีนาคม ถึง 15 เมษายน ใน 31 มณฑล เขตปกครองตนเอง และเทศบาลนครของจีน ในกลุ่มผู้ที่มีอายุ 18-69 ปี โดยสามารถรวบรวมแบบสอบถามที่ใช้งานได้จำนวน 2,012 ฉบับจากประชาชนทั่วไป และ 1,150 ฉบับจากนักศึกษา
ราว 61.8% ของผู้ตอบแบบสำรวจกล่าวว่ามีความประทับใจที่ดีต่ออาเซียน โดยเฉพาะคนที่เคยไปเยือนประเทศในอาเซียน ซึ่งต่างให้คะแนนความประทับใจสูงมาก
กว่า 90% ของผู้ตอบแบบสำรวจกล่าวว่ามีความสนใจในประเทศอาเซียน และเกือบ 2 ใน 3 แสดงความสนใจอย่างมาก โดยธุรกิจและการค้า เทคโนโลยี ธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และกีฬา ดึงดูดผู้ตอบแบบสำรวจราว 40%
ราว 90.4% ของผู้ตอบแบบสำรวจกล่าวว่า ความสัมพันธ์จีน-อาเซียน “เป็นมิตร” ขณะที่กว่า 2 ใน 3 มองว่า “เป็นมิตรอย่างมาก” และ “ค่อนข้างเป็นมิตร”
ในส่วนของคำถามที่ว่า “จีนและอาเซียนสามารถรับมือกับคำถามเรื่องทะเลจีนใต้ได้อย่างเหมาะสมหรือไม่” พบว่า 26.9% ของผู้ตอบแบบสำรวจกล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายรับมือได้ดีเสมอมา ขณะที่ 67.3% เชื่อว่าแม้จะมีความแตกต่าง แต่ทั้งสองฝ่ายสามารถรับมือได้อย่างเหมาะสมในภาพรวม
ผลสำรวจแสดงให้เห็นด้วยว่า ผู้ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างจีนกับอาเซียน ตามมาด้วยความร่วมมือด้านสาธารณสุข
จากการสำรวจในหมู่นักศึกษาพบว่า 88.4% มีมุมมองบวกต่อกิจกรรมการแลกเปลี่ยนกับมหาวิทยาลัยในอาเซียน โดยกิจกรรมทางวัฒนธรรมและศิลปะได้รับความนิยมสูงสุด โดยได้รับการกล่าวถึงในหมู่นักศึกษาถึง 61.6% ตามมาด้วยกิจกรรมการเรียนภาษา
ส่วนการสำรวจในหมู่ประชาชนทั่วไปนั้น ผู้ตอบแบบสำรวจแสดงความสนใจในประเทศสมาชิกอาเซียนอย่างมาก โดยสิงคโปร์เป็นประเทศที่ดึงดูดความสนใจมากที่สุด ซึ่งค่าเฉลี่ยความสนใจในสิงคโปร์สูงเกิน 4 จากคะแนนเต็ม 5 ตามมาด้วยมาเลเซียและไทย ซึ่งได้คะแนนเฉลี่ย 3.8 ทั้งคู่
No comments