ทรัสต์กอล์ฟ” สร้าง “สะพาน” โปรหญิงไทยก้าวสู่ “แอลพีจีเอทัวร์”
ทรัสต์กอล์ฟ” สร้าง “สะพาน” โปรหญิงไทยก้าวสู่ “แอลพีจีเอทัวร์”
ศึกกอล์ฟรูปแบบผสม ที่นำนักกอล์ฟชายและหญิง มาแข่งขันในสนามเดียวกัน ชิงเงินรางวัลเดียวกัน ทำให้คนในวงการกีฬากอล์ฟต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “น่าสนุก”, “น่าสนใจ และ “ท้าทาย” จนกระทั่ง “ทรัสต์กอล์ฟ” สร้างทัวร์นาเมนท์ให้เกิดขึ้นจริง และผลสำเร็จไม่ได้เกิดขึ้นเพียงแค่นั้น
“ทรัสต์กอล์ฟ เอเชียน มิกซ์ ซีรีส์” การแข่งขัน กอล์ฟอาชีพรูปแบบผสมชาย-หญิง 2 รายการติดต่อกันครั้งแรกในประเทศไทย ซึ่งเป็นแมตช์โคแซงชั่น เก็บคะแนนสะสมของเอเชียน ทัวร์ และ เลดี้ส์ ยูโรเปี้ยน ทัวร์ (แอลอีที) ชิงเงินรางวัลรวม 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 49 ล้านบาท) ที่ สยามคันทรีคลับ วอเตอร์ไซด์ พัทยา จ.ชลบุรี สนามแรกรายการ “ทรัสต์กอล์ฟ เอเชียน มิกซ์ คัพ” วันที่ 7-10 เมษายน 2565 และสนามที่ 2 รายการ “ทรัสต์กอล์ฟ เอเชียน มิกซ์ สเตเบิลฟอร์ด ชาลเลนจ์” วันที่ 13-16 เมษายน2565 มีการถ่ายทอดสดไปทั่วโลกทางโทรทัศน์และออนไลน์ มีผู้รับชมโดยประมาณ800 ล้านคน
โปรในระดับเอเชียนทัวร์ และ เลดีส์ ยูโรเปี้ยนทัวร์ เข้าร่วมชิงชัย พร้อมกับนักกอล์ฟไทย ที่ทรัสต์กอล์ฟ เชิญเข้าร่วมการแข่งขันทั้งโปรและสมัครเล่น ตลอด 2 สัปดาห์แห่งความน่าตื่นตาตื่นใจ เปิดฉากด้วยการคว้าแชมป์สัปดาห์แรกของ “ทีเค” รัชชานนท์ฉันทนานุวัฒน์ นักกอล์ฟสมัครเล่นทีมชาติไทย วัย 15 ปี ที่สร้างปรากฏการณ์เป็นแชมป์ทัวร์หลักที่อายุน้อยที่สุดในโลก (15 ปี 37 วัน) และทำให้ World Ranking จากลำดับที่441 มาอยู่ที่ลำดับที่ 258 ของโลก) สัปดาห์ที่ 2 ชีห์ วาน คิม โปรหนุ่มอเมริกัน วัย 33 ปีคว้าแชมป์ไปครอง ในขณะที่ มายา สตาร์ค โปรสาวสวีเดน ที่ขับเคี่ยวกันในวันสุดท้ายได้รองแชมป์ โดยที่นักกอล์ฟไทยอย่าง “โปรนุ๊ก” บุษบากร สุขพันธ์ เป็นโปรหญิงที่มีผลงานดีที่สุด คว้าอันดับ 3 ศักยภาพของนักกอล์ฟไทยทั้งชาย-หญิง ทั้งโปรและสมัครเล่น เปล่งประกายในการแข่งขันทั้ง 2 รายการ
ดร.ปริญ สิงหนาท ผู้ก่อตั้งทรัสต์กอล์ฟ เปิดใจว่า ด้วยความคิดที่ว่า กอล์ฟเป็นกีฬาเดียวที่นักกีฬา และหญิง สามารถแข่งขันด้วยกันได้ จึงเกิดการแข่งขัน “ไทยแลนด์มิกซ์” อันเป็นจุดเริ่มต้นของการแข่งขันกอล์ฟแบบผสมชาย-หญิง เมื่อปี 2020 จัดขึ้นใน 5 ภูมิภาคทั่วประเทศไทย โดยรวมนักกีฬาจากทุกทัวร์ในประเทศไทย ทั้ง ไทยพีจีเอ ไทยแอลพีจีเอ ไทยซีเนียร์พีจีเอ มือสมัครเล่น และนักกีฬาเยาวชน ได้แข่งขันในประเทศ จากนั้นจึงตามมาด้วย “ทรัสต์กอล์ฟ เอเชียน มิกซ์ ซีรีส์” ก็เพื่อเปิดโอกาสให้นักกอล์ฟไทยได้
พัฒนาศักยภาพของตนเองในเวทีระดับสากลมากขึ้น เพื่อเป้าหมายในการก้าวสู่การแข่งขันเล่นกอล์ฟแบบผสมชาย-หญิงระดับโลก “เวิลด์ มิกซ์” ต่อไป
“การเล่นกอล์ฟที่มีนักกีฬาชายและหญิงในสนามเดียวกันนั้น สนุกสนานมาก นักกอล์ฟชายอาจจะมีความดุดัน แต่ นักกอล์ฟหญิงก็มีความละเอียดอ่อน ทำให้กอล์ฟไม่มีการแบ่งเพศ แต่เป็นการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน”
“ทรัสต์กอล์ฟ เอเชียน มิกซ์ ซีรีส์” 2 รายการติดต่อกันที่พัทยา ได้รับความสนใจจากสื่อไทย และสื่อระดับนาชาติ อาทิ บีบีซี (BBC), เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ (South China Morning Post), สกายสปอร์ตส์ (Sky Sports) , กอล์ฟ ออสเตรเลีย (Golf Australia), บางกอกโพสต์ (Bangkok Post), เนชั่น ไทยแลนด์ (Nation Thailand), ไทยพีบีเอส(Thai PBS) ฯลฯ เนื่องจากเป็นความร่วมมือกันครั้งแรกของ เอเชียน ทัวร์ และ เลดี้ส์ ยูโรเปี้ยน ทัวร์ ที่มีนักกอล์ฟมือระดับพระกาฬร่วมชิงชัย โดยฝั่ง เอเชียนทัวร์ มีนักกีฬาซึ่งเป็นผู้ชนะจากการจัดอันดับเงินรางวัล 3 คน และฝั่ง เลดี้ส์ ยูโรเปี้ยน ทัวร์ มีแชมป์จากรายการแอลอีที ถึง 14 คน และ ผู้ชนะจากการจัดอันดับเงินรางวัล 2 คน
แม้จะเป็นสนามสวิงที่แข็งแกร่ง แต่มีนักกีฬาจากทรัสต์กอล์ฟทัวร์และนักกีฬาที่รับเชิญทั้งมืออาชีพและสมัครเล่น 24 คน สามารถผ่านการตัดตัวในสนามแรก “ทรัสต์กอล์ฟ เอเชียน มิกซ์ คัพ” ถึง 19 คน และสนามที่ 2 “ทรัสต์กอล์ฟ เอเชียน มิกซ์ สเตเบิลฟอร์ดชาลเลนจ์” มีนักกอล์ฟไทยผ่านการตัดตัว 16 คน คือ สิ่งที่แสดงให้เห็นว่านักกีฬาไทยมีศักยภาพทั้งที่อายุยังน้อย โดยเฉพาะนักกอล์ฟหญิง ที่ดูเผิน ๆ เหมือนว่าจะต่อกรกับนักกอล์ฟชายได้ลำบาก แต่การแข่งขัน“ทรัสต์กอล์ฟ เอเชียน มิกซ์ ซีรีส์” ทั้ง 2 รายการ นักกอล์ฟหญิงไทยโชว์วงสวิงได้อย่างยอดเยี่ยม นอกจาก “โปรนุ๊ก” บุษบากร สุขพันธ์ ที่ได้อันดับ 3 ในสนามที่ 2 แล้ว ยังมี “โปรพราว” ชเนตตี วรรณแสน ที่ลงแข่งขัน “ทรัสต์กอล์ฟ เอเชียน มิกซ์ ซีรีส์”ทั้ง 2 สัปดาห์ ทำให้ World Ranking จากอันดับที่ 820 มาอยู่อันดับที่ 440 ของโลก, “โปรมายด์” กานต์พนิตนันท์ เมืองคําสกุล (World Ranking จากอันดับ 563 เป็นอันดับที่ 476), “โปรเปียโน” อาภิชญา ยุบล (World Ranking จากอันดับ 875 เป็นอันดับที่575 โลก), “โปรว่าน” จารวี บุญจันทร์ (World Ranking จากอันดับ 801 เป็นอันดับที่547 ของโลก)รวมทั้ง “น้องซิม” ณัฐกฤตา วงศ์ทวีลาภ นักกอล์ฟสมัครเล่นดีกรีทีมชาติไทย ได้รับรางวัล Low Amateur นักกอล์ฟสมัครเล่นยอดเยี่ยมที่ทำคะแนนดีที่สุด 274 (67-68-69-70) ได้อันดับที่ 17 ร่วม ในศึก “ทรัสต์กอล์ฟ เอเชียน มิกซ์ สเตเบิลฟอร์ดชาลเลนจ์”
ในประเทศไทยยังมีนักกอล์ฟหญิงอีกมากมายที่แสดงศักยภาพที่สามารถจะก้าวไปสู่เวทีแอลพีจีเอ ทัวร์ ได้ อาทิ “โปรมายด์” ตรีฉัฐ จีนกลับ ,“โปรเอพริล” ชนกนันท์ อังกุรเศรณี, "โปรบิว" กันยลักษณ์ ปรีดาสุทธิจิตต์ ฯลฯ หรือ “แพงกี้” แอลล่า แกลิทสกีย์ นักกอล์ฟสมัครเล่นทีมชาติไทยอีกคน ที่ได้ World Ranking อันดับ 896 หลังจบการแข่งขันด้วยอันดับ 22 ร่วมของศึก “ทรัสต์กอล์ฟ เอเชียน มิกซ์ คัพ” ในสัปดาห์แรก
การสร้างโอกาสให้แก่นักกีฬาไทยของ “ทรัสต์กอล์ฟ เอเชียนมิกซ์ ซีรีส์” มีการจัดอันดับ World Ranking ให้แก่ทั้งหญิงและชาย รวมถึงมีสิทธิ์ได้รับเงินรางวัลถึงแม้ไม่ได้เป็นสมาชิกของทัวร์ ทำให้นักกีฬาได้สะสม World Ranking และคะแนน เพื่อต่อยอดอาชีพในเวทีโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักกีฬาหญิง เมื่อสะสมคะแนน (Race To Costa Del Sol) ถึง ท็อป 40 จะได้รับ แอลอีที ฟูล ทัวร์การ์ด (LET Full Tour Card), เมื่อลงแข่งขัน 6 รายการ จะได้รับ แอลอีที ทัวร์การ์ด (LET Tour Card), เมื่อเป็นผู้ชนะการจัดอันดับเงินรางวัลจะมีสิทธิ์ได้รับ แอลพีจีเอ ทัวร์การ์ด (LPGA Tour Card) ซึ่งในปัจจุบันเส้นทางสู่การเป็นนักกีฬาในแอลพีจีเอ (LPGA) มีเฉพาะการคัดเลือกผ่าน Qualifying School และการสะสมคะแนน Race To Costa Del Sol จาก แอลอีที เท่านั้น
นอกจากนี้ในศึก ทรัสต์กอล์ฟ ทัวร์ ออร์เดอร์ ออฟ เมอริต 2022 “ไทยแลนด์ มิกซ์ โฮสต์บาย ทรัสต์กอล์ฟ” สนามที่ 3 ณ สนามระยอง กรีนวัลเลย์ คันทรี คลับ อ.บ้านฉางจ.ระยอง ชิงเงินรางวัล 3 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 28 เมษายน - 1 พฤษภาคม 2565 นับเป็นแมตช์สุดท้ายจาก 3 แมตช์คัดเลือก 2 นักกอล์ฟผลงานดีที่สุดไปแข่งขัน “ทรัสต์กอล์ฟ สก๊อตติชโอเพ่น” ที่สนาม ดันโดนัลด์ ลิ้งค์ส ที่ อายเชียร์ ประเทศสกอตแลนด์ระหว่างวันที่ 28-31 กรกฎาคมนี้ โดยมี 3 โปรสาวชั้นนำของไทยที่มีอันดับดีที่สุดขับเคี่ยวกันอย่างเข้มข้น
“โปรพราว” ชเนตตี วรรณแสน สวิงสาววัย 18 ปีจาก จ.เชียงใหม่ เจ้าของ 2 แชมป์ของซีซั่นนี้ และผู้นำในอันดับ ออร์เดอร์ ออฟ เมอริต “เต็ง 1” ที่จะคว้าตั๋วอีกครั้ง กล่าวว่าตนเองเคยเข้าร่วมแข่งขันทรัสต์กอล์ฟ วีเมนส์ สกอตติช โอเพ่น มาแล้วเมื่อปีที่ผ่านมาดีใจมากและตื่นเต้นมากๆ เมื่อได้รับโอกาสที่ดีแบบนี้ ก็จะต้องเตรียมความพร้อมให้ดีที่สุด
“โปรนุ๊ก” บุษบากร สุขพันธ์ สวิงสาววัย 24 ปี จาก จ.เชียงราย ที่เล่นใน เจแปน แอลพีจีเอ ทัวร์ และรั้งอันดับ 2 ในอันดับ ออร์เดอร์ ออฟ เมอริต กล่าวว่า แม้ว่าตนเองเคยผ่านการเล่นในต่างประเทศหลายครั้ง แต่ยังไม่เคยไปเล่นที่ยุโรป ยอมรับว่าตื่นเต้นหากได้รับโอกาสนี้ โดยเฉพาะประสบการณ์ที่ได้รับจากการลงเล่นในทัวร์ใหญ่จะเป็นประโยชน์กับตัวเองอย่างมาก
“โปรเปียโน” อาภิชญา ยุบล โปรสาววัย 19 ปีจาก จ.สระบุรี รั้งอันดับ 3 ในอัน ออร์เดอร์ ออฟ เมอริต กล่าวว่า “ทรัสต์กอล์ฟ สก๊อตติชโอเพ่น” เป็นรายการใหญ่ และมีนักกอล์ฟมือดีมากมาย ตนเองอยากจะขอบคุณ ทรัสต์กอล์ฟ ที่มอบประสบการณ์ดี ๆ แบบนี้ และถือเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้นักกอล์ฟที่มีโอกาสแข่งขันในเวทีระดับโลก
ดร.ปริญ ย้ำว่า นักกอล์ฟหญิงต้องฝึกซ้อมมากขึ้น พัฒนาตัวเองให้แข็งแกร่งมากขึ้นเพื่อที่จะก้าวไปสู่ระดับโลก เมื่อเตรียมตัวพร้อมแล้วก็ต้องมีโอกาส มีเวทีแข่งขัน มีการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องให้เดินไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
“เราต้องการสร้างทางเดินให้มากขึ้น เปิดช่องทาง ผลักดันให้นักกีฬาทุกคนได้แข่งขันเพื่อเป็นสะพานก้าวข้ามไปสู่โลกของกีฬากอล์ฟ แต่จะไปได้ถึงไหนอยู่ที่ตัวของนักกอล์ฟแต่ละคนเอง”
“ทรัสต์กอล์ฟ” กำลังสร้างสะพานที่ทอดไปสู่ดวงดาว
No comments