Xinhua Silk Road: เมืองหลายปินทางตอนใต้ของจีน ก่อร่างสร้างตัวจนเป็นเมืองอุตสาหกรรมสมัยใหม่แห่งใหม่
ปักกิ่ง--3 มกราคม 2566--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
เมืองหลายปิน (Laibin) ในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงทางตอนใต้ของจีน ได้ดำเนินการอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อนเพื่อสร้างเมืองสมัยใหม่ที่เกิดขึ้นใหม่บนพื้นที่ปลูกอ้อย และสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งประวัติศาสตร์ด้วยการเปลี่ยนพื้นที่เกษตรกรรมให้เป็นเมืองอุตสาหกรรมในระยะเวลาสองทศวรรษ
ข้อมูลสถิติแสดงให้เห็นว่า ในปี 2564 มูลค่าผลผลิตอุตสาหกรรมรวมของบริษัทอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในเมืองหลายปิน สูงกว่าในปี 2545 ถึงห้าเท่า ขณะที่มูลค่าเพิ่มของบริษัทอุตสาหกรรมขนาดใหญ่เพิ่มขึ้น 13.4% ต่อปี และ ณ เดือนตุลาคม 2565 มีบริษัทอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ (Industrial Enterprises above Designated Size) รวมทั้งสิ้น 387 แห่งในเมืองหลายปิน ซึ่งมากกว่าในปี 2545 ถึงสี่เท่า
ในปี 2545 เมืองหลายปินไม่มีนิคมอุตสาหกรรมแม้แต่แห่งเดียว แต่ในปี 2564 เมืองหลายปินมีนิคมอุตสาหกรรมระดับมณฑลถึง 7 แห่ง และมีนิคมอุตสาหกรรมเบา 5 แห่ง
นิคมอุตสาหกรรมสารสนเทศอิเล็กทรอนิกส์จงเพ่ย (Zhongpei Electronic Information Industrial Park) นิคมอุตสาหกรรมรังไหมและผ้าไหมซานเจียงโข่ว (ซินเฉิง) (Sanjiangkou (Xincheng) Cocoon and Silk Industrial Park) รวมถึงนิคมอุตสาหกรรมอนุรักษ์พลังงานและปกป้องสิ่งแวดล้อมซานเจียงโข่ว (Sanjiangkou Energy Conservation and Environmental Protection Industrial Park) ในเมืองหลายปิน ได้ดึงดูดบริษัทด้านสารสนเทศอิเล็กทรอนิกส์และสิ่งทอสมัยใหม่มากกว่า 60 ราย
เมืองหลายปินกำลังเดินหน้าส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมและห่วงโซ่อุปทาน รวมถึงการสร้างกลุ่มอุตสาหกรรมชั้นนำห้ากลุ่ม ได้แก่ อ้อย วัสดุโลหะใหม่ พลังงานใหม่และไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์และวัสดุในครัวเรือน และแคลเซียมคาร์บอเนตคุณภาพสูง
ปัจจุบัน เมืองหลายปินเป็นที่รู้จักในฐานะฐานการผลิตและจัดหาวัสดุแคโทดแมงกานีสสำหรับแบตเตอรี่พลังงานใหม่ที่มีความสำคัญในระดับโลก อีกทั้งยังเป็นฐานการรีไซเคิลอ้อยครบวงจรที่สมบูรณ์แบบที่สุดในประเทศจีน
https://en.imsilkroad.com/p/331987.html
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/1975696/111.jpg
คำบรรยายภาพ - ภาพโรงงานมาตรฐานของนิคมอุตสาหกรรมสารสนเทศอิเล็กทรอนิกส์จงเพ่ย ในเมืองหลายปิน เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงทางตอนใต้ของจีน (ภาพจากคณะกรรมการบริหารนิคมอุตสาหกรรมเมืองหลายปิน)
No comments