คู่มือเลือกเครื่องกำเนิดไฟ สำหรับใช้ในงานก่อสร้าง
ในงานก่อสร้างทุกขนาด ไม่ว่าจะเป็นการก่อสร้างอาคารบ้านเรือนทั่วไป ก่อสร้างโรงงาน หรือก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างใด ๆ ก็ตาม ก็ล้วนแต่เป็นงานที่ต้องใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าจำนวนมาก เช่น สว่านไฟฟ้า เลื่อยไฟฟ้า เครื่องเชื่อมไฟฟ้า ฯลฯ ดังนั้น ทุกไซต์งานจึงจำเป็นต้องมีเครื่องปั่นไฟหรือเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำหรับใช้ในงานก่อสร้างเอาไว้ เพื่อเป็นแหล่งพลังงานสำรองในกรณีฉุกเฉินหรือเมื่อไฟฟ้าดับนั่นเอง
แล้วหากอยากเลือกเครื่องกำเนิดไฟไว้ใช้กับงานก่อสร้าง จะมีวิธีการเลือกอย่างไรให้ตอบโจทย์การใช้งาน และที่สำคัญที่สุด ปลอดภัยต่อผู้ใช้งานทุกคน วันนี้เรามีคู่มือการเลือกเครื่องกำเนิดไฟด้วยตัวเองอย่างง่าย ๆ แต่ตอบรับความต้องการด้านการใช้งานได้เป็นอย่างดีมาฝากกัน
ประเภทของเครื่องกำเนิดไฟที่ผู้ใช้งานควรรู้
อยากเลือกเครื่องกำเนิดไฟไว้ใช้ในงานก่อสร้างให้ตอบโจทย์ สิ่งแรกที่คุณต้องรู้คือประเภทของเครื่องกำเนิดไฟ ซึ่งในปัจจุบัน เครื่องกำเนิดไฟที่นิยมใช้กันทั่วไปแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ คือ เครื่องกำเนิดไฟกระแสตรง (DC Generator) และเครื่องกำเนิดไฟกระแสสลับ (AC Generator) โดยแต่ละประเภทมีคุณสมบัติและจุดเด่น ดังนี้
เครื่องกำเนิดไฟกระแสตรง
เครื่องกำเนิดไฟประเภทนี้มีรูปร่างคล้ายกับมอเตอร์ ซึ่งจะเปลี่ยนพลังงานกลให้เป็นพลังงานไฟฟ้า มีทิศทางการไหลของไฟที่สม่ำเสมอ แต่ไม่สามารถส่งกระแสไฟฟ้าไปได้ไกลเท่าเครื่องกำเนิดไฟกระแสสลับ เหมาะสำหรับการใช้งานในงานอิเล็กทรอนิกส์ และงานควบคุมเครื่องจักร
เครื่องกำเนิดไฟกระแสสลับ
เครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับ ทำงานโดยการนำพลังงานกลไปหมุนเพลาของตัวเครื่อง ทำให้ตัวนำไฟฟ้าในขดลวดอาร์เมเจอร์ตัดผ่านสนามแม่เหล็ก สามารถส่งไฟฟ้าไปใช้งานได้ระยะไกลกว่าเครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสตรง เหมาะกับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต้องใช้ไฟปริมาณมาก จึงนิยมใช้กับการใช้งานทั่วไป รวมถึงใช้ในงานก่อสร้างด้วย
การเลือกขนาดของเครื่องกำเนิดไฟ
รู้แล้วว่าเครื่องกำเนิดไฟกระแสสลับเหมาะกับงานก่อสร้าง ต่อไปก็ต้องมาเลือกขนาดของเครื่องกำเนิดไฟให้เหมาะสมกับปริมาณการใช้ไฟของอุปกรณ์ไฟฟ้าที่จำเป็นในการก่อสร้าง โดยสามารถคำนวณได้จากสูตรดังนี้
กำลังไฟฟ้า (kW) = กำลังไฟฟ้าใช้งาน (kW) * 1.2
ตัวอย่างเช่น หากอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้ในงานก่อสร้างมีกำลังไฟฟ้าใช้งานรวมกัน 10 kW จะต้องเลือกเครื่องกำเนิดไฟที่มีกำลังไฟฟ้าอย่างน้อย 12 kW
นอกจากปัจจัยเหล่านี้ การเลือกเครื่องกำเนิดไฟสำหรับงานก่อสร้าง ยังต้องพิจารณาเรื่องอื่น ๆ อีก เพื่อความสมบูรณ์ในการใช้งาน เช่น น้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้ ระดับเสียงที่เกิดขึ้นระหว่างใช้งาน และระบบการใช้งานเพื่อความปลอดภัย เพียงเท่านี้คุณก็จะได้เครื่องปั่นไฟที่ช่วยให้งานก่อสร้างดำเนินต่อไปได้ในกรณีฉุกเฉินหรือเมื่อไฟฟ้าดับ สามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพและคุ้มค่าการลงทุนแล้ว
No comments