Mercedes-Maybach S 580 e ผลงานระดับมาสเตอร์พีซของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย เปิดราคารุ่นประกอบในประเทศ ตัวถังสีทูโทน 11.2 ล้านบาท
Mercedes-Maybach S 580 e ผลงานระดับมาสเตอร์พีซของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย เปิดราคารุ่นประกอบในประเทศ ตัวถังสีทูโทน 11.2 ล้านบาท
เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) นำเสนอยนตรกรรมระดับ Top-End Luxury สำหรับกลุ่มลูกค้าระดับไฮเอนด์ เปิดตัวครั้งแรกกับ Mercedes-Maybach S 580 e รุ่นประกอบในประเทศ โดยประเทศไทยถือเป็นประเทศแรกที่ขึ้นไลน์ผลิตแบบ Local Production ในรุ่นตัวถังสีทูโทน ชูเอกลักษณ์ความเป็นที่สุดจากประวัติศาสตร์อันยาวนานของแบรนด์ Maybach ภายใต้แนวคิด "The very best of the very best" มาพร้อมขุมพลังแบบ Plug-in Hybrid ที่วิ่งได้ไกลกว่า 100 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP เหนือระดับในทุกมิติทั้งสมรรถนะ ดีไซน์ภายนอกและภายใน รวมถึงเทคโนโลยีและฟังก์ชันอำนวยความสะดวก มอบประสบการณ์การขับขี่และการโดยสารที่ไร้ที่ติ พร้อมนำเสนอ Mercedes-Maybach Lifestyle Concierge Service จากผู้ช่วยด้านไลฟ์สไตล์ระดับโลก "Quinessentially" เสริมความเอ็กซ์คลูซีฟให้กับลูกค้าที่เป็นเจ้าของ Mercedes-Maybach ตลอด 3 ปี นับตั้งแต่วันที่ออกรถ
มร. มาร์ทิน ชเวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "การเปิดตัวของ Mercedes-Maybach S 580 e รุ่นประกอบในประเทศ ถือเป็นผลงานระดับมาสเตอร์พีซของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย และเป็นหลักฐานสำคัญที่สะท้อนให้เห็นว่าเมอร์เซเดส-เบนซ์ มุ่งมั่นสร้างความเป็นเลิศให้กับแบรนด์ Mercedes-Maybach ภายใต้แนวคิดที่มาจากปรัชญาของ "วิลเฮล์ม มายบัค" ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Maybach ด้วยการสร้างสรรค์ศิลปะแห่งวิศวกรรมยานยนต์ระดับสูงสุดของเมอร์เซเดส-เบนซ์ และทำให้ Mercedes-Maybach ได้รับการยกย่องจากคนดังระดับโลกมากมายที่เป็นเจ้าของ โดยหนึ่งในองค์ประกอบที่โดดเด่นที่สุดของรถในตระกูล Mercedes-Maybach คือพื้นที่ห้องโดยสารด้านหลังที่พร้อมมอบประสบการณ์ระดับ First-Class ซึ่งถูกออกแบบอย่างพิถิพิถันและใส่ใจในทุกรายละเอียด เพื่อให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบายสูงสุดในทุกมิติ
นอกจากความเป็นที่สุดที่ลูกค้าทุกคนจะได้รับจากการเป็นเจ้าของ Mercedes-Maybach อีกหนึ่งความพิเศษคือประสบการณ์อันเหนือระดับของ Mercedes-Maybach Lifestyle Concierge Service โดยจับมือกับ ควินเทสเซ็นเชียลลี่ (Quintessentially) ผู้ให้บริการผู้ช่วยส่วนตัวด้านไลฟ์สไตล์แบบครบวงจรที่จะช่วยแก้ปัญหาเฉพาะหน้าอันเร่งด่วนและซับซ้อน ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนการเดินทาง การจองร้านอาหารชั้นนำระดับโลก หรือการจัดงานเฉลิมฉลองสุดพิเศษ พร้อมให้สมาชิกได้ใช้เวลาอันมีค่ากับคนสำคัญอย่างไร้กังวลซึ่งบริการสุดพิเศษนี้ยังสามารถสะท้อนไปถึงความใส่ใจในทุกรายละเอียดของ Mercedes-Maybach ด้วยเช่นกัน"
Mercedes-Maybach S 580 e ตัวถังสีทูโทน (two-tone paint – obsidian black / high-tech silver) รุ่นประกอบในประเทศ เปิดราคาจำหน่าย 11,200,000 บาท
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและสิทธิพิเศษของ Mercedes-Maybach S 580 e ได้ที่ผู้จำหน่ายเมอร์เซเดส-มายบัค อย่างเป็นทางการ หรือที่เว็บไซต์ https://www.mercedes-benz.co.th และช่องทางโซเชียลมีเดียของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ทุกแพลตฟอร์ม
เกี่ยวกับ เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจี
เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจี เป็นส่วนหนึ่งของบริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ กรุ๊ป เอจี ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบธุรกิจทั่วโลกของรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ และรถตู้เมอร์เซเดส-เบนซ์ ด้วยจำนวนพนักงานกว่า 170,000 คนทั่วโลก โดยมี โอล่า คัลเลนเนียส เป็นประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัทมุ่งเน้นการพัฒนา ผลิต และจำหน่ายรถยนต์ รถตู้ และบริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ นอกจากนั้น ยังมีเจตนารมณ์ในการเป็นผู้นำของโลกในด้านยานยนต์ไฟฟ้าและซอฟต์แวร์รถยนต์ กลุ่มผลิตภัณฑ์ของบริษัทประกอบด้วยแบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์ และแบรนด์ย่อย เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี เมอร์เซเดส-มายบัค จี-คลาส และแบรนด์สมาร์ท โดยมีแบรนด์ Mercedes me ที่นำเสนอการเข้าถึงบริการด้านดิจิทัลจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ ทั้งนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจี เป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์โดยสารระดับลักชัวรีรายใหญ่ที่สุดของโลก
ในปี 2565 บริษัทฯ จำหน่ายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลราว 2 ล้านคัน และรถตู้เกือบ 415,300 คัน เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจี ขยายเครือข่ายการผลิตใน 2 กลุ่มธุรกิจอย่างต่อเนื่องทั่วโลก โดยมีฐานการผลิตราว 35 แห่งใน 4 ทวีป ควบคู่ไปกับแนวทางการพัฒนาที่ตอบสนองความต้องการในด้านยานยนต์ไฟฟ้า ขณะเดียวกัน บริษัทได้พัฒนาเครือข่ายการผลิตแบตเตอรี่ของตัวเองทั่วโลกใน 3 ทวีป การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนล้วนมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งทั้งต่อกลยุทธ์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์และต่อบริษัท สำหรับเมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจี ความยั่งยืนหมายถึงการสร้างคุณค่าให้แก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายในระยะยาว ทั้งลูกค้า พนักงาน นักลงทุน พันธมิตรทางธุรกิจ และสังคมโดยรวม โดยอาศัยพื้นฐานของกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนของกลุ่ม เมอร์เซเดส-เบนซ์ กรุ๊ป ซึ่งมุ่งรับผิดชอบต่อผลกระทบในด้านเศรษฐกิจ สภาพแวดล้อม และสังคม จากกิจกรรมทางธุรกิจต่าง ๆ ของบริษัท และให้ความสำคัญต่อห่วงโซ่คุณค่าโดยรวม
No comments