Translucia ผนึก MIT Media Lab หน่วยงานวิจัยชั้นนำของโลก ร่วมวิจัยและคิดค้นเทคโนโลยี AI ใหม่ เดินหน้ายกระดับความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นเพื่อทุกสรรพสิ่ง
15 พฤศจิกายน 2566 กรุงเทพฯ - Translucia (บริษัท ทรานส์ลูเซีย จำกัด) ผนึกพันธมิตรร่วมกับ MIT Media Lab ศูนย์วิจัยนวัตกรรมของ Massachusetts Institute of Technology (MIT) โดยเข้าร่วมเป็นสมาชิกโครงการวิ
Translucia (บริษัท ทรานส์ลูเซีย จำกัด) ผนึกพันธมิตรร่วมกับ MIT Media Lab ศูนย์วิจัยนวัตกรรมของ Massachusetts Institute of Technology (MIT) โดยเข้าร่วมเป็นสมาชิกโครงการวิจัยในฐานะ Consortium Lab Project Member เพื่อร่วมพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาขับเคลื่อนชีวิตที่มีความสุขอย่างยั่งยืนท่ามกลางธรรมชาติและเปิดปรากฏการณ์การใช้ชีวิตระหว่างโลกจริงและโลกเสมือนที่เชื่อมต่อกันอย่างไร้รอยต่อ
Translucia เป็นแพลตฟอร์มโลกเสมือนสุดล้ำที่สร้างสรรค์ขึ้นจากหลายเทคโนโลยี เช่น AI, Blockchain และเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาโลกเสมือนต่างๆ (Immersive Technology) โดยมี “ทีแอนด์บี มีเดีย โกลบอล” และ “MQDC” เป็นผู้ร่วมพัฒนาขึ้น บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะสร้างจักรวาลเสมือนจริงที่เพียบพร้อมด้วยอีโคซิสเต็มครบวงจร รองรับการให้บริการและผสานรวมเข้ากับแพลตฟอร์มอื่น ๆ เพื่อมอบประสบการณ์ Web 3 ที่เชื่อมต่อได้แบบไร้พรมแดน จึงได้ร่วมมือกับ MIT Media Lab เพื่อทำการวิจัยแพลตฟอร์ม บริการ และรูปแบบการใช้งานใหม่ ๆ ของ AI
โดยภายใต้ความร่วมมือกับ MIT Media Lab ในครั้งนี้ Translucia ยังได้ทำงานร่วมกับ MQDC Idyllias ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาจักรวาลโลกเสมือนที่เชื่อมโลกจริงและโลกเสมือนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพื่อร่วมกันเสาะหาโอกาสใหม่ ๆ สำหรับแพลตฟอร์มโลกเสมือนไปพร้อมกัน
ดร. ชวัลวัฒน์ อริยวรารมย์ ประธานกรรมการบริหาร ทีแอนด์บี มีเดีย โกลบอล (ประเทศไทย) และผู้ก่อตั้ง Translucia กล่าวว่า “ความร่วมมือกับ MIT Media Lab นับเป็นการเปิดโอกาสให้ทีม Translucia และ MQDC Idyllias ได้ทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมในศูนย์วิจัยนวัตกรรมระดับโลก เพื่อเสาะหาแนวทางการสร้างสังคมที่ช่วยสร้างสรรค์คุณค่าใหม่ ๆ อันเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมมุ่งขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจ โดยองค์ความรู้ เทคโนโลยี และผลงานวิจัยที่ MIT Media Lab, Translucia และ MQDC Idyllias ได้สร้างสรรค์ร่วมกันจะช่วยผลักดันการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดของ Sustainnovation หรือนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน ที่สามารถต่อยอดเป็นโลกเสมือนใบใหม่ที่จะพัฒนาขึ้นในอนาคตได้”
นายพันธบัตร สันติมากร ประธานเจ้าหน้าที่พัฒนาธุรกิจของ Translucia กล่าวว่า “Translucia ยกระดับโครงการพัฒนาโลกเสมือนจริงขึ้นไปอีกขั้น ด้วยการเป็นแพลตฟอร์มขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อโลกเสมือนหลายใบได้อย่างไร้ขีดจำกัด เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ทำงานกับศูนย์วิจัยชั้นนำอย่าง MIT Media Lab ที่เปี่ยมด้วยความเชี่ยวชาญและประสบการณ์อันยาวนานในการคิดค้นนวัตกรรมหลากหลายสาขา”
“การร่วมงานกับศูนย์วิจัยเทคโนโลยีระดับโลก ถือเป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยปลดล็อกศักยภาพการพัฒนารูปแบบใหม่ ๆ ได้เป็นอย่างดี เราจะเริ่มจากการวิจัยชุดเทคโนโลยีที่รองรับการเชื่อมต่อจักรวาลโลกเสมือนเข้าด้วยกัน ตลอดจนการร่วมวิจัยการใช้ AI ในหลายรูปแบบ ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาอีโคซิสเต็มที่รองรับการสร้างสรรค์โลกที่เชื่อมต่อประสบการณ์แห่งความสุขที่ยั่งยืนทั้งในโลกจริงและโลกดิจิทัล พร้อมกันนี้ เรายังผนึกกำลังกับ MQDC Idyllias เพื่อให้โลกเสมือนที่กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาได้สำรวจแนวทางในการเป็นแพลตฟอร์มเพื่อการทำงานวิจัยร่วมกันอีกด้วย” นายพันธบัตร สันติมากร กล่าวเสริม
นายภารุต เพ็ญพายัพ ผู้อำนวยการโครงการ MQDC Idyllias ผู้พัฒนาจักรวาลโลกเสมือน (เมตาเวิร์ส) ของ MQDC ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ ซึ่งเป็นพันธมิตรรายแรกของ Translucia กล่าวว่า “เรามุ่งวิจัยการใช้เทคโนโลยีและโซลูชั่น AI มาขับเคลื่อนความยั่งยืนและความเป็นอยู่ที่ดีของทุกสรรพสิ่ง (For All Well-Being) เราตั้งเป้าปลดล็อกขีดจำกัดในการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาช่วยยกระดับชีวิตที่ใกล้ชิดธรรมชาติอย่างกลมกลืน ผ่านการเชื่อมต่อกันระหว่างโลกจริงและโลกเสมือนด้วยเทคโนโลยี ในขณะที่ Translucia ร่วมวิจัยกับ MIT Media Lab เราก็พร้อมสำรวจการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เหล่านี้มาใช้ยกระดับประสบการณ์ใช้ชีวิตตามแนวคิด ‘For All Well-Being’ ที่ The Forestias โปรเจ็กต์มิกซ์ยูสของ MQDC เพื่อนำเสนอโครงการ The Forestias ในมิติใหม่บนโลกเสมือน ด้วยเป้าหมายในการพัฒนาเป็นนวัตกรรมอันน่าตื่นเต้นต่อไปในอนาคต”
ศาสตราจารย์แพตตี้ เมส์ ศาสตราจารย์ด้าน MEDIA ARTS AND SCIENCES แห่ง MIT MEDIA LAB กล่าวว่า “MIT MEDIA LAB ให้ความสำคัญกับการยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ด้วยการให้มนุษย์ได้ใช้ชีวิตอย่างกลมกลืนกับธรรมชาติ เราตื่นเต้นที่จะได้ทำงานร่วมกับ TRANSLUCIA เพื่อนำการใช้เทคโนโลยี อาทิ เครือข่ายเซนเซอร์, AI และเทคโนโลยีอินเทอร์แอ็กทีฟ มาสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ ร่วมกัน”
No comments