Header Ads

พลิกโฉมวงการผลิตไทยกับงาน “ครบเครื่องเรื่อง 5 แกน The Utmost Stories of 5 Axis Technology” ครั้งแรกในประเทศไทยต้นเดือน ตุลาคม ที่จะถึงนี้

 


    พลิกโฉมวงการผลิตไทยกับงาน “ครบเครื่องเรื่อง

     5 แกน The Utmost Stories of 5 Axis

     Technology” ครั้งแรกในประเทศไทยต้นเดือน

    ตุลาคม ที่จะถึงนี้


    กลุ่มพันธมิตรชั้นนำในภาคอุตสาหกรรมเครื่องจักร 5 แกนรวมตัวกันเป็นครั้งแรก เพื่อผลักดันการเติบโตของอุตสาหกรรมไทย เตรียมจัดงานสัมมนา “ครบเครื่องเรื่อง 5 แกน The Utmost Stories of 5 Axis Technology” พร้อมจัดแสดงเทคโนโลยีล่าสุด ระหว่างวันที่ 3 – 4 ตุลาคม 2567 ณ สถาบันไทย-เยอรมัน จังหวัดชลบุรี โดยเหล่าผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยี 5 แกนชั้นนำจากทั่วโลกจะมารวมตัวกันเพื่อแบ่งปันความรู้และประสบการณ์เพื่อยกระดับ อุตสาหกรรมการผลิตของไทยให้ก้าวสู่มาตรฐานสากล

    นายรัชศักดิ์ เกิดภู่ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แมชชีนเทค จำกัด เผยว่า เทคโนโลยี 5 แกน กำลังจะปฏิวัติวงการผลิตในไทย ผลิตชิ้นงานได้รวดเร็วขึ้น แม่นยำยิ่งขึ้น และมีความซับซ้อนมากขึ้น ช่วยให้ผู้ประกอบการลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต และแข่งขันใน ตลาดโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสัมมนาครั้งนี้ แมชชีนเทคจะชวนเพิ่มผลกำไรต่อชิ้นงานด้วยโซลูชันจาก Haas Automation สหรัฐอเมริกา กับหัวข้อ “Affordable High Quality with long terms accuracy 5 Axis Machining Center Machine” ซึ่งจะช่วยให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาสามารถเลือกใช้เครื่องจักรได้อย่างเหมาะสม ด้วยงบประมาณลงทุนที่เหมาะสม ได้งานที่มีคุณภาพ มีความเที่ยงตรงตามที่ต้องการ เนื่องจากปัจจุบันเครื่อง 5 แกนมีหลายรูปแบบในราคาและคุณภาพที่แตกต่างและเหมาะกับ ลักษณะงานที่ต่างกัน 

    นายสุรชัย ตั้งธราธร ประธานบริษัท เอช เอส เอ็ม แมชชีนเนอรี่ จำกัด ชี้เทคโนโลยี 5 แกนคือคำตอบของการผลิตชิ้นส่วนแห่ง อนาคต โดยเฉพาะความต้องการแบบ High Mix Low Volumn นั่นคือ ชิ้นงาน หลากหลายแต่จำนวนน้อย ซึ่งงานสัมมนา ครั้งนี้จะนำเสนอหัวข้อ “YCM’s 5-Axis Solutions” เครื่อง 5 แกนจากไต้หวัน ที่มาพร้อมระบบอัตโนมัติ ทำงาน 24 ชั่วโมง สำหรับผู้ผลิตชิ้นงานหลากหลาย แต่จำนวนน้อย High Mix Low Volumn

    งานครั้งนี้น่าสนใจอย่างมาก ด้วยความครบครันทั้งเทคโนโลยีเครื่องจักร 5 แกนจากหลากหลายประเทศ ตั้งแต่เยอรมนี สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น ไต้หวัน จีน ยังมีเครื่องมือต่าง ๆ ทั้ง Cutting Tools และ Tool Holder ซอฟต์แวร์สำหรับกัดงาน 5 แกน ไปจนถึงเครื่องมือวัด และระบบตรวจสอบเครื่องจักร ทำให้ผู้มาร่วมงานได้รู้จักกับเทคโนโลยีเหล่านี้ในแง่มุมต่าง ๆ อย่างเปิดกว้าง ทำให้การตัดสินใจลงทุนมีความแม่นยำยิ่งขึ้น

    Mr. Ken Kondo, Managing Director, Okuma Techno Thailand เผยเศรษฐกิจโลกมีความไม่แน่นอน ผู้ผลิตจำนวนมาก จึงคาดการณ์ว่าจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วขึ้นของห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก ซึ่งในความเป็นจริง มันได้เริ่มขึ้นแล้ว และเราจะทำ อะไรได้บ้างภายใต้กระแสนี้? เราจำเป็นต้องมีการลงทุนที่ยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพ นี่คือเครื่องจักร 5 แกนแบบมัลติทาสกิ้ง โดย หัวข้อสัมมนาของ Okuma จะครอบคลุมเครื่องจักร 5 แกนใน 2 รุ่นที่แตกต่างกัน รุ่นเริ่มต้นสำหรับกัดงาน 5 ด้านด้วยการยึดชิ้น งาน เพียงครั้งเดียวและอีกรุ่นคือ 5 แกนเต็มรูปแบบสำหรับการกัดงานผิวโค้งที่ซับซ้อน เช่น แม่พิมพ์ นอกจากนี้ ยังมี Thermo-Friendly Concept เทคโนโลยีอัจฉริยะของ Okuma ที่จะรักษาความแม่นยำ และคอนโทรลเลอร์ OSP ที่มีฟังก์ชันไม่เหมือนใคร

    นายสุทธิศักดิ์ จุลมาตร ผู้จัดการเขตขาย บริษัท เฮิร์มเล่ เอสอีเอ จำกัด ผู้บุกเบิกเครื่อง 5 แกน ประสิทธิภาพสูงจากเยอรมนี กล่าวว่า ภาคอุตสาหกรรมฯ มีความต้องการผลิตชิ้นส่วนที่ซับซ้อนและมีมูลค่าสูงเพิ่มขึ้นในภูมิภาค ในขณะที่ชิ้นส่วนที่มีกระบวน การกัดกลึงน้อยจะถูกผลิตในประเทศเพื่อนบ้านเนื่องจากค่าแรงถูกกว่า ซึ่งหมายความว่าชิ้นส่วนสำหรับอากาศยาน เซมิคอนดักเตอร์ การแพทย์ และแม่พิมพ์ที่ซับซ้อนมากขึ้นจะถูกผลิตในประเทศไทย ดังนั้น เครื่องจักร 5 แกนจึงจะเป็นตัว เปลี่ยนเกม ที่จะทำให้มีอิสระในการกัดชิ้นส่วนที่ซับซ้อนและชิ้นส่วนที่มีความแม่นยำสูงมากขึ้น

    หัวข้อ “Milling at its best…With HERMLE” จะช่วยให้เห็นภาพเครื่องจักร 5 แกนในปัจจุบันซึ่งการใช้งานไม่ซับซ้อนอีกต่อไป สิ่งที่สำคัญมากขึ้นคือการเปิดประตูเพื่อรับลูกค้ารายใหม่และชิ้นงานใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี 5 แกน และด้วยระบบอัตโนมัติ ที่ทันสมัยจึงสามารถกัดงานแบบไร้คนควบคุม ลดปัญหาการขาดแคลนบุคลากรที่มีทักษะ

    Mr. Ali Alvi, Sales & Service Director, GFRT Machinery (Thailand) Co., Ltd. ผู้จัดจำหน่ายเพียงรายเดียวใน ประเทศไทยให้กับ Beijing Jingdiao ซึ่งเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศจีนสำหรับ เทคโนโลยีระดับไฮเอนด์และเครื่องจักร ที่มีความแม่นยำสูง โดยจะนำเสนอหัวข้อ “เครื่องจักร 5 แกนของ Beijing Jingdiao” ครอบคลุมความแข็งแกร่งของเครื่องจักร CNC จาก Beijing Jingdiao ซึ่งเป็นเครื่องกัดที่มีความแม่นยำสูง มีจุดเด่นในการทำพื้นผิวชิ้นงานที่ละเอียดมากในระดับ Mirror surface ติดตั้งหัวโพรบในตัว และโปรแกรมออกแบบ Jingdiao SurfMill ที่ทันสมัย

    Mr. Dylan Khor, Managing Director, Tungaloy-NTK Cutting Tool Thailand แสดงความเห็นว่า เครื่องจักร CNC 5 แกนเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการผลิตชิ้นส่วนที่ซับซ้อน มีความหลากหลาย และสามารถนำไปใช้ได้ในหลายอุตสาหกรรม โดยเครื่องจักรเหล่านี้สามารถทำงานหลายอย่างพร้อมกัน ทำให้การผลิตชิ้นงานรวดเร็วกว่าเครื่องจักร 3 แกนอย่างมาก สามารถ ทำงานได้มากขึ้น ในเวลาที่น้อยลง เครื่องจักรเหล่านี้จึงเหมาะสำหรับการผลิตแบบจำนวนน้อย และเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการผลิตชิ้นส่วนคุณภาพสูงอย่างมีประสิทธิภาพ โดยหัวข้อ “Tungaloy-NTK: Your Partner in 5-Axis Machining” ที่นำเสนอ ประเภทต่าง ๆ ของเครื่องจักร 5 แกน การเขียนโปรแกรม CAD/CAM และจำลองงาน รวมถึงการเลือกเครื่องมือตัดที่เหมาะสม

    นายชูชาติ ศิวเวทกุล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท มายโกรว์เทค (ประเทศไทย) จำกัด ย้ำเทคโนโลยี 5 แกนจะเสริมประสิทธิภาพ การผลิตจากการกัดงานเร็วขึ้น และยังได้ผิวงานที่สวยขึ้นด้วย โดยสัมมนาครั้งนี้จะนำเสนอการทำโปรแกรม 5 แกนที่ง่ายกว่าด้วย Cimatron 5x และ Case Study ความสำเร็จจากการนำเทคโนโลยี 5 แกนไปใช้ รวมถึงการประยุกต์ใช้โปรแกรม Cimatron เพื่อเพิ่มโอกาสและการแข่งขันให้มากกว่าเทคโนโลยีเดิมที่ลูกค้ามีอยู่

    แนวโน้มการใช้งานเครื่องจักร 5 แกนในประเทศไทย

    แม้ว่าในยุโรปจะมีการใช้งานเครื่องจักร 5 แกนมานานแล้ว แต่ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาความต้องการชิ้นส่วนที่มีความซับซ้อน เช่น ชิ้นส่วนอากาศยาน เครื่องมือทางการแพทย์ ชิ้นส่วนทันตกรรม ชิ้นส่วนโลหะสำหรับใช้ในร่างกายมนุษย์ กล้องถ่ายรูปในมือถือ ฯลฯ เพิ่มมากขึ้น ซึ่งชิ้นส่วนเหล่านี้ไม่สามารถผลิตโดยใช้เครื่องจักรแบบเก่าได้ ดังนั้นการลงทุนในเครื่องจักร 5 แกนมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ทั่วโลก เพราะไม่เพียงแค่ช่วยผลิตชิ้นงานที่มีความซับซ้อน แต่ยังช่วยประหยัดต้นทุนได้หลายทาง  สามารถควบคุมประสิทธิภาพ การทำงานได้ดีขึ้น ให้ความแม่นยำ รวดเร็วและมีคุณภาพสูง อีกทั้งค่าใช้จ่ายส่วนสึกหรอสิ้นเปลืองก็ลดลง นับเป็นการลงทุน ที่คุ้มค่ามาก

    โรงงานในประเทศไทยมีใช้เครื่องจักร 5 แกนมากพอสมควร โดยในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาความต้องการใช้เครื่องจักร 5 แกนเพิ่มสูง ขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยเติบโตราว 25% จากที่เคยเติบโตในระดับ 2-3% ในอดีต ซึ่งรวมถึงเครื่องจักร ซอฟต์แวร์ คัตติ้งทูลส์ ฯลฯ  การผลิตชิ้นส่วนที่ซับซ้อนได้ภายในประเทศจะช่วยลดการนำเข้า อาทิ ชิ้นส่วนอากาศยาน จิวเวลรี่ ไปจนถึงการออกแบบ บรรจุภัณฑ์ใส่อาหาร ซึ่งช่วยให้ผู้ออกแบบและผู้ผลิตสามารถต่อยอดไอเดียที่สร้างสรรค์ได้อย่างง่ายดาย

    ผู้เชี่ยวชาญในวงการยังเปิดเผยว่า แม้เทคโนโลยีนี้จะเป็นของต่างชาติแต่ผู้ประกอบการไทยไม่ต้องกังวลถึงปัญหาของ M&A อะไหล่ หรือบริการหลังการขาย เนื่องจากการดูแลรักษาและซ่อมบำรุงเครื่องจักร 5 แกนสามารถให้บริการได้จากวิศวกรและผู้เชี่ยวชาญ ในประเทศไทย เรามั่นใจได้ว่าผู้ประกอบการจะใช้เทคโนโลยีนี้ได้อย่างราบรื่น ไทยเรามีศักยภาพทั้งในการขาย ติดตั้ง ซ่อมบำรุง อะไหล่ spare parts รวมถึงการบริการทางด้านซอฟต์แวร์

    นอกจากนี้ BOI ยังออกมาตรการส่งเสริมการลงทุนหรืออัปเกรดทางด้านเครื่องจักร High-precision ตามรายละเอียดการยื่นขอรับ สิทธิพิเศษในการลงทุนต่าง ๆ และยังมีมาตรการทางภาษีซึ่งส่งเสริมให้ผู้ประกอบการลงทุนในระบบอัตโนมัติ สามารถขอรับสิทธิ ในการบันทึกค่าใช้จ่ายเป็นสองเท่า นอกจากนี้ในอุตสาหกรรมประเภท S-curve ก็อยู่ในประเภทที่รัฐบาลส่งเสริมและผลักดัน อาทิ เช่น อุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ อุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร ฯลฯ

    การลงทุนในเครื่องจักร 5 แกนนั้นขึ้นอยู่กับสินค้าที่ผู้ประกอบการต้องการผลิต เครื่องจักร 5 แกนจึงไม่ได้จะมาทดแทนเครื่องจักร แบบ 3 แกน เพราะการทำงานนั้นต่างกันไปตามชิ้นงานที่ต้องการผลิต เช่น ชิ้นส่วนที่ซับซ้อนการใช้เครื่องจักร 5 แกนจะช่วยลด เวลาในการนำชิ้นงาน เข้า ออก ทำให้ผลิตชิ้นงานได้ความรวดเร็วขึ้น และมีความแม่นยำขึ้น แต่เครื่องจักรแบบ 3 แกนก็ยังคง ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสำหรับการผลิตชิ้นส่วนทั่วไป

    ทางผู้จัดงานขอเชิญชวนผู้ประกอบการ วิศวกร ผู้ควบคุมเครื่องจักร และผู้เกี่ยวข้องกับเครื่องจักร CNC ทั้ง 3 แกน และ 5 แกน มาร่วมงานครั้งนี้ เนื่องจากเป็นงานเดียวที่จะเห็นภาพใหญ่ของเทคโนโลยี 5 แกนทั้งหมด เพื่อนำไปประยุกต์ใช้กับธุรกิจที่ทำอยู่ และขยายตลาดไปยังเซกเมนต์ใหม่ ๆ ที่ลูกค้ายังไปไม่ถึงจากข้อจำกัดของเทคโนโลยีที่มีอยู่เดิม

    สำหรับท่านที่สนใจเข้าร่วมงาน “ครบเครื่องเรื่อง 5 แกน The Utmost Stories of 5 Axis Technology”  สามารถซื้อ บัตรเข้าร่วมงานราคา Early Bird 1,200 บาทต่อวัน ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 25 กันยายน 2567 จากราคาเต็ม 1,800 บาทต่อวัน โดยบัตรหนึ่งใบสามารถเข้าร่วมสัมมนาได้ทุกหัวข้อตลอดวัน รวมอาหารกลางวัน ชา กาแฟ และอาหารว่าง และของที่ระลึกสุดพิเศษของงานนี้

    No comments

    Theme images by sololos. Powered by Blogger.