“ยูนิโคล่ จัดกิจกรรมปลูกต้นไม้ที่สวนป่านิเวศอ่อนนุช
ภายใต้โครงการ Let’s Grow Together”
ร่วมด้วยหน่วยงานกรุงเทพมหานคร และมูลนิธิสถาบันราชพฤกษ์
เพื่อเพิ่มจำนวนต้นไม้ในประเทศไทยให้ได้มากกว่า 11,160 ต้น ภายในสิ้นปี 2567
(ในภาพที่ 4 จากซ้าย) คุณพรพรหม วิกิตเศรษฐ์ ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, มร.โยชิทาเกะ วาคากุวะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูนิโคล่ (ประเทศไทย) จำกัด
และ มร. ฟูจิอิ คิโยฟูสะ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท ยูนิโคล่ (ประเทศไทย) จำกัด
กรุงเทพฯ (3 กันยายน 2567) – ยูนิโคล่ ประเทศไทย แบรนด์เครื่องแต่งกายระดับโลก สานต่อพันธกิจด้านความยั่งยืนของแบรนด์เสื้อผ้า จัดตั้งโครงการ Let’s Grow Together นำร่องด้วยกิจกรรมปลูกต้นไม้ที่สวนป่านิเวศอ่อนนุช ร่วมด้วยหน่วยงานกรุงเทพมหานคร และมูลนิธิสถาบันราชพฤกษ์ พร้อมด้วย คณะผู้บริหาร และพนักงานบริษัท ยูนิโคล่ (ประเทศไทย) จำกัด, ผู้แทนจากสำนักสิ่งแวดล้อม, ผู้แทนจากสำนักงานเขตประเวศ, เจ้าหน้าที่ศูนย์กำจัดมูลฝอยอ่อนนุช และ คณะครู-นักเรียนจากโรงเรียนวัดกระทุ่มเสือปลา ที่มาร่วมปลูกต้นไม้ไปด้วยกัน รวมผู้เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 100 คน
จิตอาสาทั้งหมดที่ร่วมกิจกรรมปลูกต้นไม้ที่สวนป่านิเวศอ่อนนุช ได้ร่วมเรียนรู้วิธีการปลูกต้นไม้ และลงมือทำจริง ก่อนปลูกต้นไม้ไปกว่า 200 ต้น โดยเน้นต้นไม้ที่ออกผลเป็นส่วนใหญ่ เช่น มะม่วง ฝรั่ง เพื่อให้ประโยชน์แก่ชุมชนที่จะช่วยกันรักษาต้นไม้ในบริเวณนี้ต่อไป และมูลนิธิสถาบันราชพฤกษ์จะติดตามผลการดำเนินงาน เก็บข้อมูลเพื่อติดตามผลการเจริญเติบโต และดูแลรักษาต่อเนื่องอย่างน้อย 1-2 ปี เพื่อให้มีอัตรารอดชีวิตมากที่สุด และเมื่อรวมกับจำนวนต้นไม้ที่ปลูกไปจากกิจกรรมในปี 2023 กว่า 800 ต้น ทำให้ในที่ดินแปลงนี้มีต้นไม้ที่ทางยูนิโคล่ปลูกไปแล้วถึง 1,000 ต้น โดยกิจกรรมในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการเพิ่มจำนวนต้นไม้ในพื้นที่ต่างๆ ในประเทศไทย เช่น จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ ราชบุรี และกรุงเทพฯ ได้มากกว่า 11,160 ต้น ภายในสิ้นปี 2567
ยูนิโคล่ยังต่อยอดโครงการ Let’s Grow Together โดยร่วมกับโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร 7 โรงเรียน และโรงเรียนในจังหวัดเชียงราย 11 โรงเรียน เพื่อปลูกฝังจิตสำนึกทางสิ่งแวดล้อมให้กับเด็กและเยาวชน และสร้างสิ่งแวดล้อมและสภาพอากาศที่บริสุทธิ์จากต้นไม้ให้แก่โรงเรียนและชุมชน นอกจากนี้ ยูนิโคล่ยังนำรายได้จากจำหน่ายถุงกระดาษ ที่ทำจากวัสดุรีไซเคิลที่ผ่านการรับรองจาก FSC (Forest Stewardship Council) ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นการจำหน่ายแบบไม่แสวงหาผลกำไร บริจาคสนับสนุนให้กับมูลนิธิสถาบันราชพฤกษ์ ในการปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียวในประเทศไทยเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน
ยูนิโคล่ยึดถือพันธกิจด้านความยั่งยืนเพื่อสังคมไทยเสมอมา โดยมีนโยบายการใช้ซ้ำ (Reuse) และ การลดการใช้ทรัพยากร (Reduce) ยูนิโคล่ยังคงเดินหน้าสนับสนุนกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวทั่วประเทศ สู่อากาศที่สะอาดยิ่งขึ้น เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีของคนไทยทั้งประเทศ และพร้อมมุ่งสู่ความเป็นหนึ่งในบริษัทที่ยั่งยืนที่สุดในประเทศไทย
รูปภาพเพิ่มเติม
สาธิตการนำต้นไม้ลงดินโดยมูลนิธิสถาบันราชพฤกษ์ |
เด็กๆ ตั้งใจฟังวิธีการปลูกต้นไม้อย่างถูกวิธี โดยมูลนิธิสถาบันราชพฤกษ์ |
น้องๆ เตรียมนำต้นไม้ลงดิน |
จิตอาสาช่วยกันปลูกต้นไม้ |
Let’s Grow Together |
ต้นไม้ทั้งหมดในกิจกรรมปลูกต้นไม้ที่สวนป่านิเวศอ่อนนุช |
เกี่ยวกับ ยูนิโคล่ และ ฟาสต์ รีเทลลิ่ง
ยูนิโคล่เป็นแบรนด์ที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่มฟาสต์ รีเทลลิ่ง ทั้ง 8 แบรนด์ ซึ่งแบรนด์ที่เหลือได้แก่ GU, Theory, PLST (Plus T), Comptoir des Cotonniers, Princesse tam.tam, J Brand และ Helmut Lang บริษัทฯ มียอดจำหน่ายทั่วโลกประมาณ 2.77 ล้านล้านเยนในปีบัญชี 2023 สิ้นสุด ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2023 (ประมาณ 18.92 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยคำนวณจากอัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์ ต่อ 146.2 เยน ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2023) ฟาสต์ รีเทลลิ่ง เป็นหนึ่งในบริษัทค้าปลีกสินค้าเครื่องแต่งกายที่ใหญ่ที่สุดในโลก และยูนิโคล่เป็นแบรนด์ค้าปลีกสินค้าเฉพาะทางชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น
ยูนิโคล่ยังคงเดินหน้าเปิดร้านสาขาขนาดใหญ่ในเมืองใหญ่และในทำเลที่สำคัญต่างๆ ทั่วโลก เพื่อสร้างความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องในฐานะแบรนด์ระดับโลก ในปัจจุบันยูนิโคล่มีจำนวนร้านสาขากว่า 2,400 ทั่วโลก ทั้งในประเทศญี่ปุ่น ทวีปเอเชีย ทวีปยุโรป และทวีปอเมริกาเหนือ โดยจำนวนรวมของร้านสาขาในกลุ่มฟาสต์ รีเทลลิ่งอยู่ที่ราว 3,600 ร้านทั่วโลก
ฟาสต์ รีเทลลิ่ง มีพันธกิจที่จะเปลี่ยนโฉมเสื้อผ้า พลิกโฉมหน้าของภูมิปัญญาเดิมๆ และเปลี่ยนแปลงโลก โดยบริษัทฯ ทุ่มเทให้กับการสร้างสรรค์เสื้อผ้าชั้นเยี่ยมด้วยค่านิยมใหม่ที่พิเศษไม่เหมือนใคร เพื่อร่วมสร้างสรรค์ชีวิตที่ดียิ่งขึ้นให้กับผู้คนทุกหนแห่ง ท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับยูนิโคล่และฟาสต์ รีเทลลิ่ง ได้ที่เว็บไซต์ www.uniqlo.com และ www.fastretailing.com
No comments