Header Ads

‘บมจ.ที.แมน ฟาร์มาซูติคอล’ เปิดยุทธศาสตร์มุ่งสร้างสรรค์นวัตกรรมเวชภัณฑ์ยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ก้าวสู่ผู้นำนวัตกรรมสุขภาพ ที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของทุกคนให้ดียิ่งขึ้น

 

 ‘บมจ.ที.แมน ฟาร์มาซูติคอล’ เปิดยุทธศาสตร์มุ่งสร้างสรรค์นวัตกรรมเวชภัณฑ์ยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ก้าวสู่ผู้นำนวัตกรรมสุขภาพ ที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของทุกคนให้ดียิ่งขึ้น

‘บมจ.ที.แมน ฟาร์มาซูติคอล’ หรือ TMAN หนึ่งในผู้นำธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายเวชภัณฑ์ยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพชั้นนำของประเทศไทย เดินยุทธศาสตร์สู่ผู้นำนวัตกรรมสุขภาพที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของทุกคนให้ดียิ่งขึ้น วางกลยุทธ์นำเสนอนวัตกรรมเวชภัณฑ์ยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่มีคุณภาพ พร้อมขยายพอร์ตโฟลิโอเพื่อตอบสนองกลุ่มลูกค้าทุกกลุ่ม มุ่งลงทุนขยายกำลังการผลิตและเทคโนโลยีภายในโรงงานเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต และรับแผนขยายฐานกลุ่มลูกค้าองค์กรทั้งในประเทศและต่างประเทศ สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน

นายประพล ฐานะโชติพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ที.แมน ฟาร์มาซูติคอล จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ” หรือ “TMAN”) เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัทฯ เป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจผลิต และ/หรือจัดจำหน่ายเวชภัณฑ์ยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพชั้นนำของประเทศไทย ที่นำเสนอนวัตกรรมเวชภัณฑ์ยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ผ่านการคิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ภายใต้การผลิตด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัยและได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสากล เพื่อมอบผลิตภัณฑ์ทั้งการรักษา และการป้องกันโรค ในทุกช่วงวัยของผู้บริโภค ที่มีเครือข่ายกลุ่มลูกค้าองค์กรหลากหลายและครอบคลุมทั้งในประเทศและต่างประเทศ ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมยากว่า 50 ปี โดยมีวิสัยทัศน์ “มุ่งมั่นขับเคลื่อนนวัตกรรมสุขภาพ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของทุกคน” โดยวางเป้าหมายก้าวสู่การเป็นผู้นำนวัตกรรมสุขภาพ ที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของทุกคนให้ดียิ่งขึ้น

ปัจจุบันธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ประกอบด้วย 1.ผลิตและจัดจำหน่ายเวชภัณฑ์ยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพภายใต้แบรนด์ของกลุ่มบริษัทฯ 2.รับจ้างผลิตเวชภัณฑ์ยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพภายใต้แบรนด์ของบุคคลภายนอก (OEM/ODM) และ 3.จัดจำหน่ายเวชภัณฑ์ยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพภายใต้แบรนด์ของบุคคลภายนอก

ขณะที่ผลิตภัณฑ์เวชภัณฑ์ยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพของกลุ่มบริษัทฯ แบ่งเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ 1.ยาแผนปัจจุบัน แบ่งเป็น ยาสามัญ (Generic drugs) และยาสามัญใหม่ (New generic drugs) ภายใต้แบรนด์ของกลุ่มบริษัทฯ และแบรนด์ของบุคคลภายนอก เช่น กลุ่มผลิตภัณฑ์ Myda ยาฆ่าเชื้อรา รักษาโรคผิวหนังจากเชื้อราที่มีอาการอักเสบและ/หรืออาการคันร่วมด้วย เป็นต้น 2.ผลิตภัณฑ์สมุนไพร ได้แก่ ยาสมุนไพรและผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรเพื่อสุขภาพจากสมุนไพรและสารสกัดจากธรรมชาติภายใต้แบรนด์ของกลุ่มบริษัทฯ และแบรนด์ของบุคคลภายนอก เช่น กลุ่มผลิตภัณฑ์ Propoliz กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลและช่วยบรรเทาอาการทางช่องปากและลำคอ เป็นต้น 3.ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและเครื่องสำอาง โดยมีกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ครอบคลุมความต้องการของผู้บริโภคทุกช่วงวัย ภายใต้แบรนด์ของกลุ่มบริษัทฯ เช่น กลุ่มผลิตภัณฑ์ Vita-C ผลิตภัณฑ์เสริมวิตามินซี เป็นต้น และเครื่องสำอางภายใต้แบรนด์ของกลุ่มบริษัทฯ เช่น Nevtral cream ครีมสำหรับผื่น แพ้ คัน เป็นต้น 4.ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพอื่นๆ ได้แก่ 1) อุปกรณ์และวัสดุทางการแพทย์ เพื่อรักษา บรรเทาและป้องกันการเจ็บป่วย เช่น Dr.Temp แผ่นเจลลดไข้ เป็นต้น และ 2) สินค้าอุปโภคบริโภคเพื่อดูแลสุขภาพทั่วไปทุกวัย ที่ไม่ใช่เวชภัณฑ์และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เช่น Polar ที่มีทั้งสเปรย์ปรับอากาศและโฟมล้างมือ เป็นต้น

Screenshot_20240518-155548

“ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กลุ่มบริษัทฯ มุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและมีคุณภาพ ทั้งในกลุ่มเวชภัณฑ์ยาและกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบถ้วน โดยมีแบรนด์ของตนเองที่ประสบความสำเร็จและถือเป็น “Products Champion” 5 แบรนด์ ได้แก่ 1) แบรนด์ Propoliz ผลิตภัณฑ์ผสมสารสกัดโพรโพลิส (Propolis extract) จากธรรมชาติ ช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอ 2) แบรนด์ไอยรา ยาน้ำแก้ไอผสมสารสกัดสมุนไพรที่ไม่มีแอลกอฮอล์ 3) แบรนด์ Myda ยาแผนปัจจุบันซึ่งมีคุณสมบัติรักษาโรคผิวหนังที่เกิดจากการติดเชื้อที่มีอาการอักเสบ และ/หรืออาการคันร่วมด้วย 4) แบรนด์ IBUMAN ยาบรรเทาอาการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) และ 5) แบรนด์ Vita-C เป็นหนึ่งในแบรนด์วิตามินเสริมภูมิคุ้มกันที่ได้รับความนิยมในกลุ่มแม่และเด็กและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งกลุ่มบริษัทฯ ได้พัฒนาต่อยอดไปยังผลิตภัณฑ์ประเภทอื่น เพื่อขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง” นายประพล กล่าว

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TMAN กล่าวว่า อ้างอิงจาก Krungsri Research ทิศทางอุตสาหกรรมยายังมีศักยภาพเติบโตต่อเนื่อง จากแนวโน้มการจำหน่ายยาในประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2566 – 2568 คาดการณ์ว่าจะมีอัตราการเติบโต 5-6% ต่อปี เนื่องจากทิศทางของเศรษฐกิจกลับสู่ภาวะปกติ ส่งผลให้ผู้ป่วยต่างชาติกลับมาใช้บริการมากขึ้น ตลอดจนการเข้าถึงระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า และพฤติกรรมผู้บริโภคที่ใส่ใจดูแลสุขภาพ ส่งผลให้ความต้องการบริโภคยาเพิ่มขึ้น โดยคาดว่ามูลค่าการจำหน่ายยาผ่านโรงพยาบาลจะเติบโตเฉลี่ยที่ 6.3 % ต่อปี ขณะที่มูลค่าการจำหน่ายผ่านร้านขายยา (OTC) จะเติบโตเฉลี่ยที่ 5.0 % ต่อปี

ขณะที่ความต้องการด้านเวชภัณฑ์ยาภายหลังการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ผู้บริโภคปรับพฤติกรรมการดูแลสุขภาพมากขึ้น เพื่อป้องกันโรคต่างๆ ประกอบกับประเทศไทยจะเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยอย่างสมบูรณ์ และการเข้าสู่สังคมเมืองทำให้ต้องเผชิญมลภาวะและขาดการออกกำลังกาย ทำให้ความต้องการยาเสริมภูมิคุ้มกันหรือป้องกันโรคเพิ่มขึ้น กลุ่มบริษัทฯ ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์และจัดหาผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อให้สอดคล้องกับเทรนด์ด้านสุขภาพและสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป อาทิ ยาน้ำแก้ไอมะแว้ง ไลท์ สูตรไม่มีน้ำตาล (กล่องสีขาว) เหมาะกับผู้บริโภคที่ต้องระมัดระวังเรื่องระดับน้ำตาลและผู้สูงอายุ

นายธนัท พลอยดนัย ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและผลิตภัณฑ์ TMAN กล่าวว่า กลุ่มบริษัทฯ เป็นผู้ผลิตและเจ้าของแบรนด์เวชภัณฑ์ยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่มีความหลากหลาย และแบรนด์ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภค โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 กลุ่มบริษัทฯ เป็นเจ้าของแบรนด์เวชภัณฑ์ยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ รวมทั้งสิ้น 221 แบรนด์ และนำเข้าหรือจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ของบุคคลภายนอกอีก 18 แบรนด์ รวมทั้งสิ้นกว่า 804 ผลิตภัณฑ์ (SKUs) และมีเครือข่ายกลุ่มลูกค้าองค์กรเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่งครอบคลุมทั้งร้านขายยา โรงพยาบาล คลินิกเวชกรรมและเสริมความงาม ธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ (Modern Trade) นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทฯ มีโรงงานผลิตยาแผนปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์สมุนไพร ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และเครื่องสำอาง ได้แก่ โรงงานผลิต ที.แมน ฟาร์มา และโรงงานผลิต เฮเว่น เฮิร์บ มีศักยภาพการผลิตที่มีจุดเด่นได้รับการรับรองมาตรฐานการผลิตระดับสากล มาตรฐานหลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการผลิต (GMP PIC/S) มาตรฐานหลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการกระจายยา (GDP PIC/S) มาตรฐานห้องปฏิบัติการระดับสากล ISO 17025 และการรับรองมาตรฐานอื่นๆ

Screenshot_20240518-155553




ทั้งนี้กลุ่มบริษัทฯ วาง 8 กลยุทธ์ขับเคลื่อนธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน ได้แก่ 1) พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและนวัตกรรมใหม่ ครอบคลุมทั้งกลุ่มเวชภัณฑ์ ซึ่งเป็นยาแผนปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์สมุนไพรสำหรับการรักษากลุ่มโรคสำคัญ และกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ พร้อมกับมุ่งสร้างมาตรฐานการสกัดสารสกัดจากธรรมชาติภายใต้ NatureCeutical ตลอดจนการสรรหาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ 2) ขยายกำลังการผลิตและปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต โดยวางแผนลงทุนขยายกำลังการผลิต เช่น การติดตั้งเครื่องจักรสำหรับบรรจุผลิตภัณฑ์ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันและสร้างการประหยัดต่อขนาด (Economy of Scale) เป็นต้น 3) สรรหาบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ โดยกลุ่มบริษัทฯ มีแผนจะขยายทีมเภสัชกร นักวิทยาศาสตร์ อีกทั้งมุ่งขยายทีมเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายเพื่อสามารถเข้าถึงลูกค้าองค์กรกว้างขวางมากขึ้น 4) การมุ่งเน้นสร้างแบรนด์ผลิตภัณฑ์ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างได้รับการยอมรับผู้บริโภค โดยจะพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการและการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภค นำเสนอจุดขายของผลิตภัณฑ์ทำให้แบรนด์แตกต่างและมุ่งสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ 5) การขยายธุรกิจจัดจำหน่ายเวชภัณฑ์ยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพภายใต้แบรนด์ของบุคคลภายนอก เพิ่มนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย พร้อมทั้งปรับโครงสร้างฝ่ายขายและขยายทีมเจ้าหน้าที่ขาย 6) การขยายฐานลูกค้ากลุ่มลูกค้าโรงพยาบาล โดยมุ่งพัฒนาและนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม 7) มุ่งขยายการจัดจำหน่ายตลาดต่างประเทศ โดยการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ของกลุ่มบริษัทฯ ผ่านการสรรหาผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่มีศักยภาพ 8) การขยายธุรกิจรับจ้างผลิต (ODM/OEM) โดยใช้ศักยภาพโรงงานที่ได้รับรองมาตรฐานการผลิตระดับสากล ผลิตผลิตภัณฑ์ยาแผนปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์สมุนไพร และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพอื่นๆ ภายใต้แบรนด์ของบุคคลภายนอก

นายตรัส อบสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานปฏิบัติการ TMAN กล่าวว่า เพื่อรองรับการขยายฐานลูกค้าได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศกลุ่มบริษัทฯ มีแผนการลงทุนเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต โดยเป็นโครงการที่อยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้างและ/หรือติดตั้งเครื่องจักร ซึ่งประกอบด้วย

  1. ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตของโรงงานผลิต ที.แมน ฟาร์มา โดยลงทุนติดตั้งเครื่องจักรและระบบการผลิตยาแผนปัจจุบันประเภท เม็ด น้ำ และครีมเพิ่มเติม คาดว่าทั้ง 2 ส่วนจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 4 ปี 2567
  2. โครงการปรับปรุงและขยายศูนย์วิจัยและพัฒนา รวมทั้งลงทุนอุปกรณ์เครื่องมือวิจัย คาดว่าจะเปิดใช้งานได้ภายในไตรมาส 4 ปี 2567
  3. โครงการก่อสร้างคลังสินค้าและอาคารสำนักงานของบริษัท เฮเว่น เฮิร์บ จำกัด รวมถึงการปรับปรุงที่ดินและติดตั้งระบบ
  4. โครงการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตสมุนไพร สำหรับสายการบรรจุผลิตภัณฑ์ผลิตภัณฑ์สมุนไพรภายในโรงงานผลิต เฮเว่น เฮิร์บ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2 ปี 2567
  5. โครงการขยายกำลังการผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ของบริษัท เฮเว่น เฮิร์บ จำกัด โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 4 ปี 2567 ซึ่งทำให้สามารถผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารประเภทของแข็ง (Solid Dosage Form) ได้
  6. โครงการพัฒนาระบบงานขายบนระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อเพิ่มการทำงานส่วนงานขายให้ลูกค้าสามารถสั่งซื้อผ่านระบบดังกล่าว
  7. โครงการปรับปรุงมาตรฐานการผลิตโดยลงทุนในเครื่องมือควบคุมคุณภาพการผลิตยาแผนปัจจุบัน และ
  8. โครงการปรับปรุงสายการผลิตกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
เกี่ยวกับกลุ่มบริษัท ทีแมน

กลุ่มบริษัท ทีแมน ฯ เป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจผลิต และ/หรือจัดจำหน่ายเวชภัณฑ์ยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพมานานกว่า 50 ปี มุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อให้คนไทยเข้าถึงยาที่มีคุณภาพ ประสิทธิภาพ ในราคายุติธรรม ซึ่งปัจจุบันผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ มีความหลากหลาย ครอบคลุมทั้งการรักษาและป้องกัน เช่น กลุ่มยาแผนปัจจุบัน กลุ่มผลิตภัณฑ์สมุนไพร กลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและเครื่องสำอาง รวมถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพอื่น ๆ และมีเป้าหมายในการพัฒนาศักยภาพอย่างต่อเนื่องเพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำนวัตกรรมสุขภาพ ที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของทุกคน ให้ดียิ่งขึ้น

#tman
#tmanpharceutical
#ทีแมน
#ทีแมนฟาร์มาซูติคอล

No comments

Theme images by sololos. Powered by Blogger.