แดน เดวิด ไพรซ์ประกาศรางวัลส่งเสริมบุคลากรในแวดวงประวัติศาสตร์เป็นครั้งแรก
แดน เดวิด ไพรซ์เลือกเฟ้นนักวิชาการและผู้ชำนาญการทางประวัติศาสตร์ที่เปี่ยมไปด้วยความโดดเด่น เพื่อรับเงินรางวัลคนละ 300,000 ดอลลาร์
แดน เดวิด ไพรซ์ (Dan David Prize) รางวัลด้านประวัติศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ประกาศรายชื่อผู้คว้ารางวัลชนะเลิศกลุ่มแรก ซึ่งประกอบไปด้วยนักประวัติศาสตร์ที่ทำการตรวจสอบผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของธุรกิจใหญ่, นักวิจัยผู้ค้นพบสถานที่ซ่อนตัวของชาวยิวในช่วงการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และผู้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์มรดกแอฟริกาเคลื่อนที่
ทั้งนี้ รางวัลดังกล่าวได้เลือกเฟ้นนักวิชาการและผู้ชำนาญการที่อยู่ในช่วงต้นและกลางของชีวิตการทำงาน ซึ่งทำการสำรวจอดีตของมนุษย์ด้วยวิธีการที่กล้าหาญและสร้างสรรค์ พร้อมมอบเงินรางวัล 300,000 ดอลลาร์ต่อคนให้กับผู้ชนะทั้ง 9 ราย เพื่อช่วยส่งเสริมการทำงานของพวกเขา
ผู้คว้ารางวัลชนะเลิศประจำปี 2565 ได้แก่
– มีเรียม บรูเซียส (Mirjam Brusius) นักประวัติศาสตร์ด้านวัฒนธรรม ซึ่งศึกษาวัฒนธรรมภาพและวัตถุในบริบทโลกและอาณานิคม
– บาร์ต เอลมอร์ (Bart Elmore) นักประวัติศาสตร์ด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งตรวจสอบระบบทุนนิยมโลกและผลกระทบที่ระบบทุนนิยมมีต่อสิ่งแวดล้อม
– ไทโรน ฟรีแมน (Tyrone Freeman) นักประวัติศาสตร์ด้านการกุศล ซึ่งตรวจสอบความเป็นมาอันยาวนานของการให้ในชุมชนแอฟริกัน-อเมริกัน
– เวเรนา เครบส์ (Verena Krebs) นักประวัติศาสตร์เอธิโอเปียยุคกลาง ซึ่งศึกษาการปฏิสัมพันธ์ข้ามวัฒนธรรมระหว่างแอฟริกาและยุโรป
– เอฟทีมียา นิกิตา (Efthymia Nikita) นักชีวโบราณคดีที่ใช้ชิ้นส่วนกระดูกมนุษย์ในการสำรวจปริศนาด้านประชากรศาสตร์และการโยกย้ายถิ่นฐาน
– นานา โอโฟเรียตตา อายิม (Nana Oforiatta Ayim) ภัณฑารักษ์และนักประวัติศาสตร์ศิลปะ ซึ่งมุ่งเน้นการค้นคว้าเรื่องราวของชาวแอฟริกันในด้านพิพิธภัณฑ์และมรดก
– คริสตีนา ริชาร์ดสัน (Kristina Richardson) นักประวัติศาสตร์โลกอิสลามยุคกลางและชาวโรมันในตะวันออกกลางก่อนยุคสมัยใหม่
– นาตาเลีย โรมิค (Natalia Romik) นักประวัติศาสตร์สาธารณะและสถาปนิก ซึ่งทำงานเพื่ออนุรักษ์และระลึกถึงการสูญเสียชีวิตของชาวยิวในยุโรปตะวันออก
– คิมเบอร์ลี เวลช์ (Kimberly Welch) นักประวัติศาสตร์กฎหมายที่ศึกษาบทบาทของคู่พิพาทและผู้ให้กู้ยืมเงินผิวดำในยุคแอนเทเบลลัมใต้ (Antebellum South)
รางวัลที่ได้รับการออกแบบใหม่เมื่อไม่นานมานี้ทำให้มีผู้ได้รับการเสนอชื่อหลายร้อยคนด้วยกัน และผู้ชนะทั้ง 9 คนได้รับเลือกผ่านกระบวนการคัดสรรอันเข้มงวด โดยมูลนิธิแดน เดวิด ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ที่มหาวิทยาลัยเทลอาวีฟ เป็นผู้มอบเงินรางวัลดังกล่าว
“เราอยู่ในโลกที่การศึกษาด้านมนุษยศาสตร์ โดยเฉพาะประวัติศาสตร์ มักถูกด้อยค่า แม้กระจ่างชัดว่ามีเพียงการเรียนรู้อดีตให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นจึงจะทำให้เราเข้าใจปัจจุบันได้ดีขึ้น เพราะเหตุนี้ เราจึงเลือกที่จะมุ่งความสนใจไปยังการสนับสนุนนักวิชาการและผู้ชำนาญการรุ่นใหม่ ทั้งภายในและภายนอกสถาบันการศึกษา ในช่วงเวลาของชีวิตการทำงานที่รางวัลนี้จะช่วยก่อให้เกิดผลมากยิ่งขึ้น” แอเรียล เดวิด (Ariel David) สมาชิกกรรมการรางวัลแดน เดวิด ไพรซ์กล่าว
ผู้ชนะจะได้รับมอบรางวัลที่พิธีแดน เดวิด ไพรซ์ อวอร์ด ณ นครเทลอาวีฟในเดือนพฤษภาคม ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.dandavidprize.org
No comments