วิศวะมหิดล ผนึกกำลัง MFEC ยกระดับด้านไอทีในการพัฒนาประเทศ

วิศวะมหิดล ผนึกกำลัง MFEC ยกระดับด้านไอทีในการพัฒนาประเทศ

คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล นำโดย รศ.ดร.จักรกฤษณ์ ศุทธากรณ์ คณบดี ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ MOU กับ บริษัท เอ็ม เอฟ อี ซี จำกัด (มหาชน) โดย นายศิริวัฒน์ วงศ์จารุกร ประธานกรรมการบริหาร เป็นผู้ลงนาม วัตถุประสงค์เพื่อผนึกกำลังระหว่างภาคการศึกษาและภาคอุตสาหกรรมไอทีในการพัฒนาองค์ความรู้และการวิจัย พัฒนาเยาวชนคนรุ่นใหม่และบุคลากรที่มีสมรรถนะสูง เพื่อยกระดับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและความมั่นคงของประเทศ ณ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

รศ.ดร.จักรกฤษณ์ ศุทธากรณ์ คณบดี คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า สังคมและเศรษฐกิจของไทยและโลกในยุคดิจิทัลขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี การลงนามข้อตกลงร่วมกับบริษัท เอ็ม เอฟ อี ซี จำกัด (มหาชน) ในครั้งนี้มีกำหนดระยะเวลา 3 ปี เพื่อร่วมกันส่งเสริมพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนวิศวกรรมศาสตร์ของไทย สนับสนุนการวิจัยพัฒนาการศึกษาของไทยให้เกิดประโยชน์สูงสุด พร้อมไปกับตอบโจทย์การแก้ปัญหาและเพิ่มศักยภาพในการสร้างสรรค์นวัตกรรมของประเทศ โดยคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล มีความพร้อมในด้านองค์ความรู้ ห้องปฏิบัติการที่ก้าวหน้าทันสมัย อาทิ ห้องปฏิบัติการทางด้านนิติวิทยาดิจิทัล (Digital Forensics) ห้องปฏิบัติการระบบสมองกลฝังตัว (Embedded System) ห้องปฏิบัติการทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (ITM) พรั่งพร้อมผู้เชี่ยวชาญที่สามารถทำหน้าที่สนับสนุนงานด้านวิชาการและงานด้านวิจัย เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมทางด้านไอทีและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ของประเทศร่วมกัน

นายศิริวัฒน์ วงศ์จารุกร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็ม เอฟ อี ซี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า MFEC ให้ความสำคัญในการร่วมผลักดันศักยภาพอันไร้ขีดจำกัดของบุคลากรในวงการเทคโนโลยี เพื่อนำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตของทุกคน การที่ภาคเอกชนเข้าร่วมกับภาคการศึกษานี้ มีเป้าหมายเพื่อผนึกกำลังและพัฒนาองค์ความรู้ทางวิชาการ การพัฒนาบุคลากร รวมไปถึงการพัฒนาองค์ความรู้อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ที่จะนำไปสู่การถ่ายทอด การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ความรู้จริง และเทคโนโลยีระหว่างทั้งสองฝ่าย อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการบูรณาการการเรียนกับการทำงาน (Work-Integrated-Learning) ในรูปแบบสหกิจศึกษาที่จะจัดให้มีขึ้นในลำดับถัดไป ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาความมั่นคงของประเทศชาติสืบต่อไปในอนาคต