Header Ads

ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย เปิดตัวโครงการ Sustainability Innovation ขับเคลื่อนธุรกิจเอสเอ็มอีด้านการท่องเที่ยวสู่ความยั่งยืน

 

ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย เปิดตัวโครงการ Sustainability Innovation

ขับเคลื่อนธุรกิจเอสเอ็มอีด้านการท่องเที่ยวสู่ความยั่งยืน 

ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย เปิดตัวโครงการ Sustainability Innovation อย่างเป็นทางการ หนุนผู้ประกอบการ SMEs ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ให้เดินหน้าธุรกิจสู่ความยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการใช้เครื่องมือดิจิทัลต่างๆ และเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแบบยั่งยื


โครงการ Sustainability Innovation ดำเนินการโดย เดอะฟินแล็บ ประเทศไทย ภายใต้ความร่วมมือกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) และ O2O Forum ที่จะยกระดับผู้ประกอบการ SMEs ในธุรกิจการท่องเที่ยวกว่า 150 บริษัท ผ่านการสนับสนุนที่จำเป็น พร้อมด้วยทรัพยากรและเครื่องมือในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนที่จะสร้างสมดุลระหว่าง ผลกระทบ ผลกำไร และประสิทธิภาพได้อย่างลงตัว


โครงการ Sustainability Innovation จะช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs ด้วยข้อมูลเชิงลึกและองค์ความรู้ต่างๆ ในการเปลี่ยนผ่านธุรกิจสู่ความยั่งยืน การปรับกระบวนการปฏิบัติงานแบบดิจิทัลเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนสนับสนุนในการปรับเปลี่ยนสู่ดิจิทัลและเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อาทิ การนำเครื่องมือดิจิทัลอย่าง cWallet ซึ่งเป็นระบบบัญชีก๊าซเรือนกระจกมาใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ จะทำให้ SMEs สามารถก้าวสู่ทิศทางการเปลี่ยนผ่านไปสู่ธุรกิจการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนได้พร้อมทั้งมีการเก็บข้อมูลของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างเรียลไทม์


เพื่อให้ SMEs ได้ทดลองใช้เครื่องมือดิจิทัลในธุรกิจ SMEs ที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับสิทธิพิเศษในการทดลองใช้ cWallet แพลตฟอร์มแบบออลอินวันสำหรับการบริหารจัดการการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นเวลา 3 เดือน นอกจากนี้ SMEs ยังจะได้รับสิทธิ์ทดลองใช้ระบบจองร้านอาหาร Appointment Anywhere เป็นเวลา เดือน พร้อมรับส่วนลด 4,400 บาทในการสมัครสมาชิกรายปี ปี โดยจะช่วยลดขั้นตอนของการบริหารจัดการด้านการจองโต๊ะสำหรับธุรกิจร้านอาหาร นับเป็นการเพิ่มศักยภาพ และสร้างผลกำไรทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ


เนื่องจากธุรกิจการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนกำลังได้รับความสนใจและมีการคาดการณ์ว่าธุรกิจสามารถสร้างมูลค่าได้สูงถึง 843 ล้านบาทในปี 2565 (USD 24.6MB[1])  โครงการ Sustainability Innovation โดยธนาคารยูโอบี ประเทศไทย เล็งเห็นถึงความสำคัญดังกล่าว จึงพร้อมที่จะสนับสนุน SMEs ให้เกิดการพัฒนาธุรกิจของตนเองให้เป็นไปตามความคาดหมายของผู้บริโภคในการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับผลสำรวจจากรายงาน Sustainability Travel Study 2022[2] ที่ระบุว่า ร้อยละ 90 ของผู้บริโภคนักเดินทางใช้เกณฑ์เรื่องความยั่งยืนเป็นตัวเลือกเมื่อตัดสินใจออกเดินทางท่องเที่ยว ทำอย่างไรให้การไปท่องเที่ยวทริปนั้นยั่งยืนมากที่สุด ขณะที่ร้อยละ 69 มองหาทริปที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และร้อยละ 65 แสดงออกถึงความสนใจวัฒนธรรมท้องถิ่นและความเป็นชุมชน

https://thefinlab.com/th/thailand .

นายบัลลังก์ ว่องธวัชชัย Head of Digital Engagement and FinTech Innovation ธนาคารยูโอบี           ประเทศไทย กล่าวว่า “การพัฒนาการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน นับเป็นประเด็นที่ต้องให้ความสำคัญอย่างมากในขณะนี้ เนื่องจากผู้บริโภคเองต่างคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเพิ่มสูงขึ้นเมื่อพวกเขาเดินทางท่องเที่ยว โครงการของเราจึงรวบรวมบรรดาผู้เชี่ยวชาญที่สามารถให้คำแนะนำปรึกษาแก่ SMEs  เพื่อมุ่งมั่น รับมือและก้าวสู่โอกาสใหม่ๆ นี้ให้ได้ โดย SMEs สามารถก้าวไปเป็นผู้ประกอบการท่องเที่ยวเชิงยั่งยืนได้จากเครื่องมือทางดิจิทัลที่ผ่านการคัดเลือกและปรับแต่งให้เข้ากับความต้องการ ไปจนถึงแหล่งเงินทุนสนับสนุนในการปรับใช้เทคโนโลยีสีเขียว ไม่มีผลต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงมีความชำนาญในด้านการจัดโครงสร้างโมเดลทางธุรกิจของตน”


นายนิธี สีแพร รองผู้ว่าการด้านดิจิทัล วิจัยและพัฒนา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระบุว่า “ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ประเทศไทยมีปริมาณนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศมากกว่า 12.8 ล้านราย และคาดการณ์ไว้ว่าจะสูงถึง ร้อยละ 80 ของระดับนักท่องเที่ยวก่อนการระบาดของโควิด-19  ททท.เองก็อยากที่จะกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวเลือกประเทศไทยเป็นหนึ่งในที่หมายของการท่องเที่ยว จึงได้เริ่มโครงการ SUKJAI SMART TRAVEL ขึ้นเพื่อที่จะส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยและดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติผ่านเทคโนโลยี NFT ที่จะทำให้นักท่องเที่ยวสามารถลงไปใกล้ชิดชุมชน กระตุ้นเศรษฐกิจ และยังดูแลสิ่งแวดล้อมตามหลักการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน


ทั้งนี้โครงการ SUKJAI SMART TRAVEL ช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้ประกอบการเป็นที่รู้จักของพวกเขาบนแพลตฟอร์มอะเมซิ่ง ไทยแลนด์ และเมื่อทำงานร่วมกับธนาคารยูโอบี ประเทศไทยในการดำเนินโครงการ Sustainability Innovation ในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่จะช่วยต่อยอดโครงการ SUKJAI SMART TRAVEL แต่ยังเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs ให้มีความพร้อม ความสามารถ และโอกาส ในการรองรับนักท่องเที่ยวได้ดีขึ้น นอกจากนี้เรายังคาดการณ์ว่าภายในปี 2566 ประเทศไทยจะมีรายได้จากการท่องเที่ยว 2.38 ล้านล้านบาท


โครงการ Sustainability Innovation เปิดให้เจ้าของกิจการและผู้บริหารในธุรกิจการท่องเที่ยว อาทิ โรงแรม ร้านอาหาร และธุรกิจบันเทิง ที่มีความสนใจในการปรับใช้แนวทางความยั่งยืน เปิดรับเทคโนโลยีล้ำสมัย และพร้อมลงทุนต่อยอดธุรกิจด้วยการใช้เครื่องมือดิจิทัล มีความพร้อมและเวลาในการเข้าร่วมโครงการ ในเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม 2566 ผู้ประกอบการที่สนใจสามารถเข้าร่วมโครงการได้ที่ www.facebook.com/uob.th หรือ https://thefinlab.com/th/thailand .

 

# # #


เกี่ยวกับธนาคารยูโอบี

ธนาคาร ยูโอบี เป็นธนาคารชั้นนำในภูมิภาคเอเชีย มีสำนักงานใหญ่ที่ประเทศสิงคโปร์และมีการดำเนินธุรกิจในจีน อินโดนิเซีย มาเลเซีย ไทย และเวียดนาม อีกทั้งยังมีเครือข่ายระดับโลกที่ประกอบด้วยสำนักงานประมาณ 500 แห่ง ใน 19 ประเทศและเขตการปกครอง ทั้งในเอเชียแปซิฟิก ยุโรปตะวันตก และอเมริกาเหนือ นับตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อปีพ.ศ 2478 ธนาคารยูโอบีได้พัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่องผ่านการควบรวมกิจการที่สำคัญ  ปัจจุบันธนาคารยูโอบีได้รับการจัดลำดับให้เป็นธนาคารที่มีความแข็งแกร่งในระดับสากจากบริษัทจัดลำดับความน่าเชื่อถือระดับโลก ได้แก่ ความน่าเชื่อถือระดับ Aa1 โดย มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส และ ความน่าเชื่อถืออยู่ในลำดับ AAA (tha) จาก ฟิทช์ เรทติงส์ และเอสแอนด์พี โกลบอล เรทติงส์  

ตลอดระยะเวลาเกือบ 9 ทศววรรษ  ธนาคารยูโอบีดำเนินธุรกิจโดยยึดความต้องการของลูกค้าเป็นศูนย์กลางเพื่อสร้างคุณค่าให้แก่ธุรกิจในระยะยาวโดยการปรับกลยุทธ์เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคผ่านพลังงานแห่งความสร้างสรรค์และความมุ่งมั่นในการทำสิ่งที่ถูกต้องแก่ลูกค้า ยูโอบีพร้อมที่จะพัฒนาอนาคตของภูมิภาคอาเซียนในเติบโต ทั้งประชากรและธุรกิจให้มีความเชื่อมโยงกันอย่างทั่วถึงในภูมิภาค

เรายังมีส่วนในการเชื่อมต่อโอกาสทางธุรกิจภายในภูมิภาคนี้ ผ่านเครือข่ายทางการเงินที่แข็งแกร่ง เรามีการจัดทำฐานข้อมูลและรวบรวมข้อมูลเชิงลึกสำหรับพัฒนาและนำเสนอประสบการณ์ทางการเงินส่วนบุคคล และบริการทางการเงินที่เหมาะสมเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่มีการเปลี่ยนแปลง ยูโอบีมีความมุ่งมันที่จะสร้างความยั่งยื่นในการดำเนินธุรกิจให้แก่ลูกค้า ผ่านกิจกรรมการมีส่วนร่วมทางสังคม สร้างผลกระทบที่ดีต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมไปกับการพัฒนาเศรษฐกิจ ธนาคารเชื่อมั่นในการเป็นผู้บริการทางการเงินที่มีความรับผิดชอบ พร้อมทำสิ่งที่ถูกต้องเพื่อชุมชนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ผ่านการสนับสนุนกิจกรรมเพื่อสังคมด้านศิลปะ เยาวชน และ การศึกษา

เกี่ยวกับธนาคารยูโอบี ประเทศไทย

ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) เป็นธนาคารพาณิชย์ที่จดทะเบียนในประเทศไทย มีเครือข่ายทั่วประเทศ 149 สาขาและเครื่องเบิกเงินสดอัตโนมัติ 352 เครื่อง (ข้อมูลถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564)  และมียูโอบี สำนักงานใหญ่ที่ประเทศสิงค์โปร์ ถือหุ้น 99.66 เปอร์เซนต์  ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในลำดับ AAA (tha) โดยฟิทช์ เรทติงส์ 


No comments

Theme images by sololos. Powered by Blogger.