ตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาล เพื่อสร้างพื้นฐานของสุขภาพที่แข็งแรง
ทำไมการตรวจสุขภาพโรงพยาบาลจึงมีความสำคัญ? ในเมื่อมีคลินิกใกล้บ้านที่สามารถให้การรักษาได้อยู่แล้ว…
หลาย ๆ คนคงมีคำถามนี้ติดอยู่ในใจ แต่ช้าก่อน เราเชื่อว่าการเข้าถึงคลินิกที่ใกล้ตัวย่อมช่วยในเรื่องของการรักษาอาการเจ็บป่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ เพื่อให้การดำเนินชีวิตประจำวันเป็นไปอย่างปกติ อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่าหลายคนต้องเคยเจอหมอในคลินิกบอกว่า หากกินยาแล้วยังไม่หายภายในเท่านี้ ๆ วันให้ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล หรือผลตรวจแล็บของคลินิกอาจใช้เวลาหลายสัปดาห์ หากต้องการเร็วกว่านี้ให้ไปตรวจที่โรงพยาบาล
นั่นเป็นเพราะหากต้องการตรวจรักษาที่ต้องลงลึกยิ่งขึ้น หรือต้องใช้ยาที่เฉพาะด้านมากขึ้น ให้ผลลัพธ์การตรวจวินิจฉัยที่รวดเร็วมากยิ่งขึ้น การตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลคือเรื่องที่จำเป็นอยู่ดี เมื่อประกอบกับไลฟ์สไตล์ชีวิตที่เร่งรีบ หลายคนละเลยสุขภาพของตัวเอง เมื่อได้รับการรักษาหายจากคลินิก แต่ยังคงไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต รอยโรคต่าง ๆ ที่เคยสงบอาจกำลังก่อตัวขึ้นอย่างเงียบ ๆ และรอวันที่จะปะทุ กลายเป็นโรคร้ายแรงหรือระยะที่ลุกลามจนรักษายากไปเสียแล้ว
ดังนั้น การตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลเป็นประจำทุกปี หรือตามนัดของแพทย์จึงเป็นสิ่งที่ช่วยให้คุณรู้เท่าทันสุขภาพและอาการป่วยของตัวเองได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ นั่นเอง
การตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาล คือการสร้างพื้นฐานของสุขภาพที่แข็งแรง
การตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลช่วยให้เราทราบถึงสภาพร่างกายโดยรวม ค้นหาและติดตามความเสี่ยงต่อสุขภาพในทุกช่วงอายุที่สำคัญตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อสามารถวางแผนป้องกันโรคร้ายหรือรักษาได้อย่างทันท่วงที ซึ่งอาจสรุปข้อดีของการตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลได้ดังนี้
• ค้นหาความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ : โดยแพทย์จะซักประวัติ ตรวจร่างกาย และตรวจทางห้องปฏิบัติการ เพื่อค้นหาความเสี่ยงต่อโรคต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง
• ค้นพบโรคตั้งแต่ระยะเริ่มต้น : การตรวจสุขภาพช่วยให้เราค้นพบโรคก่อนแสดงอาการ ช่วยให้รักษาได้ง่ายและมีประสิทธิภาพ โดยหลายโรคในระยะเริ่มต้นมักไม่มีอาการ การตรวจสุขภาพช่วยให้พบโรคได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ เพิ่มโอกาสในการรักษาให้หายขาด
• ป้องกันโรคร้ายแรงด้วยอุปกรณ์ที่ทันสมัย : การตรวจสุขภาพช่วยประเมินความเสี่ยงต่อโรคร้ายแรง เช่น โรคหัวใจ โรคมะเร็ง เบาหวาน ฯลฯ ด้วยอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัยต่าง ๆ
• ได้รับยาที่มีประสิทธิภาพ : บางโรคจำเป็นต้องใช้ยาที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งหาซื้อไม่ได้ตามร้านยาทั่วไป โดยแพทย์สามารถสั่งยาให้ได้
• ได้รับคำแนะนำในการวางแผนดูแลสุขภาพ : ข้อมูลจากการตรวจสุขภาพ แพทย์จะให้คำแนะนำในการดูแลรักษาสุขภาพ เช่น การปรับพฤติกรรม การรับประทานอาหารที่เหมาะสม การออกกำลังกาย การเลิกสูบบุหรี่ เป็นต้น
• ติดตามผลการรักษา : การตรวจสุขภาพช่วยติดตามผลการรักษาโรคเรื้อรัง เช่น ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง
• ประหยัดค่าใช้จ่าย : การรักษาโรคในระยะลุกลามมักมีค่าใช้จ่ายสูง การตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลช่วยให้พบโรคได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ จึงเป็นการลดค่าใช้จ่ายในการรักษาที่อาจยืดเยื้อในระยะยาว
ช่วงอายุใด ควรเน้นการตรวจสุขภาพเรื่องใดบ้าง
นอกจากการตรวจร่างกายทั่วไปแล้ว แต่ละช่วงอายุควรเน้นการตรวจสุขภาพที่อาจเป็นความเสี่ยงและจุดก่อเกิดของโรคร้ายแรง ดังนี้
• 10-20 ปี: เน้นการตรวจวัดพัฒนาการ ตรวจหาภูมิคุ้มกัน โรคติดต่อ เช่น โรคหัด โรคคางทูม
• 20-30 ปี: เน้นการตรวจหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ตรวจหาความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรัง
• 30-40 ปี: เน้นการตรวจหาความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ โรคอ้วน โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง
• 40-50 ปี: เน้นการตรวจหาโรคมะเร็ง โรคหัวใจ เบาหวาน ภาวะกระดูกพรุน
• 50-60 ปี: เน้นการตรวจหาโรคกระดูกพรุน ต้อกระจก ต้อหิน ภาวะอัลไซเมอร์
• 60 ปีขึ้นไป: เน้นการตรวจหาโรคอัลไซเมอร์ พาร์กินสัน ภาวะสมองเสื่อม ภาวะซึมเศร้า
จะเห็นได้ว่าการตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า อย่ารอให้เจ็บป่วยจนยากต่อการรักษา มาค้นพบสุขภาพที่ดีก่อนสายเกินไป ด้วยการตรวจรักษาและวินิจฉัยของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ พร้อมเครื่องมือที่ทันสมัย จองคิวตรวจสุขภาพได้แล้ววันนี้
No comments